ฮาลันด์หัวเสีย! ยิงเบิ้ลแต่ไร้ชัย บ่นเรือใบไม่คู่ควรชนะหลังโดนโมนาโกตีเจ๊าท้ายเกม

ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กลายเป็นค่ำคืนที่ขมขื่นสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะได้สองประตูจาก เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ดาวยิงตัวความหวัง แต่สุดท้ายกลับพลาดสามแต้มสำคัญ หลังถูก โมนาโก ตีเสมอ 2-2 ในช่วงท้ายเกมอย่างเจ็บปวด งานนี้หัวหอกทีมชาตินอร์เวย์ออกมาเผยแบบตรงไปตรงมาว่า “เรือใบสีฟ้า” เล่นไม่ดีพอและไม่สมควรชนะ

⚽ เกมเดือดสุดมัน! เรือใบพลาดชัยโดนเจ๊าท้ายเกม

ในแมตช์รอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แมนฯ ซิตี้ ยกพลบุกเยือนถิ่น สต๊าด หลุยส์ เดอซ์ ของ โมนาโก โดยเกมนี้เป็นไปอย่างดุเดือด เรือใบสีฟ้าออกนำถึงสองครั้งจากการซัดของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ แต่กลับโดนเจ้าถิ่นตีเสมอได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะลูกจุดโทษในนาทีสุดท้ายจาก เอริค ดายเออร์ ที่ซัดเข้าไปไม่เหลือ ทำให้จบเกมแบ่งแต้มกันไปแบบสุดมัน 2-2

เกมนี้ถือเป็นอีกหนึ่งนัดที่ “เรือใบ” พลาดเก็บสามคะแนนสำคัญ ทั้งที่ควบคุมเกมได้ในครึ่งแรก แต่กลับเสียสมาธิและเล่นอย่างหลวมในครึ่งหลัง

😤 ฮาลันด์ไม่ปลื้มฟอร์มทีม บ่นตรง “เราไม่สมควรชนะ”

หลังจบเกม เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าผิดหวัง แม้ตนเองจะยิงเบิ้ล แต่กลับมองว่าทีมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานและพลาดเองในหลายจังหวะสำคัญ

“ผมไม่รู้สึกดี เราไม่ชนะ เราทำสิ่งที่ไม่จำเป็นในครึ่งหลัง เราเล่นได้ไม่ดีพอ เราไม่สมควรชนะ”
“เราต้องการพละกำลังที่มากกว่านี้ เราจำเป็นต้องเล่นกันให้ได้เหมือนในครึ่งแรก พวกเขาเหนือกว่าในครึ่งหลัง และผมไม่คิดว่าเราดีพอ”

คำพูดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจของหัวหอกชาวนอร์เวย์ที่คาดหวังให้ทีมรักษาความคมและความแน่นอนในเกมระดับยุโรปมากกว่านี้

🔍 จุดเปลี่ยนของเกม: จุดโทษท้ายเกมที่เปลี่ยนผลลัพธ์

หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญคือการเสียลูกจุดโทษในช่วงทดเวลา ซึ่งมอบโอกาสทองให้ โมนาโก ตีเสมอได้สำเร็จ โดย ฮาลันด์ เผยว่า

“ผมไม่เห็น แต่หากคุณเตะใส่หน้าคู่แข่ง มันก็น่าจะเป็นลูกโทษ”

คำตอบตรงไปตรงมานี้ตอกย้ำว่าแม้จะผิดหวัง แต่เจ้าตัวยอมรับตามหลักการของเกม

📊 ยิงสองแต่มีบอลแค่ 7 ครั้ง ฮาลันด์เผย “งานของผมคือวิ่ง-จบสกอร์”

แม้จะมีสถิติสัมผัสบอลเพียง 7 ครั้งในครึ่งแรก แต่ฮาลันด์ก็จัดไป 2 ประตูเต็ม ๆ ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าไม่ได้กังวลกับตัวเลขนี้ เพราะหน้าที่หลักคือการเคลื่อนที่และหาช่องสร้างโอกาส

“ผมยังคิดว่ามีส่วนร่วมกับเกมด้วยการเคลื่อนที่ และเปิดพื้นที่ให้คนอื่น มันไม่ได้เป็นเรื่องของการสัมผัสบอลเท่านั้น มันคือการวิ่ง ผมทำหน้าที่ของผมในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังผมทำไม่ได้ ผมยิงประตูเพิ่มไม่ได้”

แม้จะไม่พอใจผลลัพธ์ แต่ความกระหายของฮาลันด์ยังชัดเจนว่าต้องการพาทีมชนะมากกว่าทำประตูส่วนตัว

🏆 เส้นทางแชมเปี้ยนส์ลีกยังอีกยาว ทุกแต้มสำคัญ

การแข่งขันใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไม่มีเกมไหนง่าย ฮาลันด์ย้ำว่า “ทุกเกมใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ยากมาก มองดูปีก่อนที่เราตกรอบก็ได้ ทุกเกมยากทั้งนั้น มีไม่กี่ทีมที่ชนะสองเกมแรก”

นี่เป็นการเตือนเพื่อนร่วมทีมว่าการผ่านรอบแบ่งกลุ่มต้องอาศัยทั้งความสม่ำเสมอและสมาธิ เพราะแม้แต่ทีมแชมป์เก่าอย่าง แมนฯ ซิตี้ ก็ยังต้องเจอแรงกดดันจากคู่แข่งที่พร้อมสู้เต็มที่ทุกนัด

📌 วิเคราะห์หลังเกม: เรือใบต้องยกระดับเกมรับ-สมาธิในช่วงท้าย

แม้เกมรุกของ แมนฯ ซิตี้ จะยังคมโดยมี ฮาลันด์ เป็นเครื่องจักรถล่มประตู แต่ปัญหาใหญ่คือเกมรับที่เสียสมาธิในช่วงสำคัญ รวมถึงการครองบอลที่ลดลงในครึ่งหลัง ทำให้คู่แข่งมีโอกาสสวนกลับและกดดันจนพลาดเสียประตู

หากทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องการลุ้นป้องกันแชมป์ยุโรป จำเป็นต้องแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านี้โดยเร็ว เพราะแต้มหลุดในรอบแบ่งกลุ่มอาจส่งผลต่ออันดับและเส้นทางสู่รอบน็อกเอาต์

📣 แฟนเรือเตรียมลุ้นเกมต่อไป

ผลเสมอครั้งนี้แม้ไม่ใช่หายนะ แต่เป็นสัญญาณเตือนชัดเจนว่า “เรือใบสีฟ้า” ต้องกลับมารวมพลังและเล่นให้เฉียบคมตลอด 90 นาที โดยเฉพาะในเวทียุโรปที่ความผิดพลาดเล็กน้อยอาจหมายถึงการตกรอบ

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ข่าวฟุตบอลยุโรป และศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา เว็บข่าวกีฬาที่คอบอลไม่ควรพลาด