
เดโก้ ผู้อำนวยการกีฬาของ บาร์เซโลน่า ออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่า ดีลการยืมตัว มาร์คัส แรชฟอร์ด จาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีเงื่อนไขค่าปรับหากทีมดังแห่งคาตาลันไม่ตัดสินใจซื้อขาดหลังหมดสัญญา ต่างจากกรณีของ เจดอน ซานโช่ ที่ เชลซี ต้องควักเงินกว่า 5 ล้านปอนด์ หลังเลือกไม่เซ็นถาวร
รายละเอียดดีลยืม “แรชฟอร์ด” แบบชัด ๆ
บาร์เซโลน่า ทีมยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน เดินหน้าเสริมทัพด้วยการดึง มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวยิงเลือดผู้ดีของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาร่วมทีมแบบยืมตัว 1 ฤดูกาล หลังเจ้าตัวตกเป็นส่วนเกินในยุคของกุนซือ รูเบน อาโมริม ที่จัดการโละชื่อออกจากทีม เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมสโมสรอย่าง อันโตนี่, อเลฮานโดร การ์นาโช่, อ็องเดร โอนาน่า และ เจดอน ซานโช่
ดีลดังกล่าวระบุว่า บาร์ซ่า จะรับผิดชอบค่าเหนื่อยของ แรชฟอร์ด เต็มจำนวนโดยไม่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด แบกรับแม้แต่น้อย พร้อมแนบเงื่อนไข อ็อปชั่นซื้อขาด แต่ไม่มีสิทธิ์เรียกนักเตะกลับในช่วงตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นและสบายใจกับทั้งสองฝ่าย
เดโก้ ย้ำชัด บาร์ซ่าไม่มีค่าปรับ หากไม่ซื้อขาด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา เดโก้ ออกมาเปิดเผยกับสื่อยืนยันอย่างตรงไปตรงมาว่า หากสุดท้าย บาร์เซโลน่า ไม่ตัดสินใจเซ็นถาวรกับ แรชฟอร์ด ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าปรับใด ๆ ให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งต่างจากกรณีของ เจดอน ซานโช่ ที่ เชลซี ต้องจ่ายเงินชดเชยกว่า 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 220 ล้านบาท) หลังเลือกไม่ใช้สิทธิ์ซื้อขาด
“เขาทำสัญญายืมตัวแบบธรรมดา และไม่มีการจ่ายค่าปรับ หากเราต้องการเขา เรามีอ็อปชั่นซื้อเขาได้ แต่มันเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการตัดสินใจสำหรับซีซั่นหน้า แต่ไม่ว่าจะยังไง เราแฮปปี้กับเขา” เดโก้ กล่าว
ความคาดหวังและทิศทางในอนาคต
จากผลงานของ แรชฟอร์ด ที่เริ่มปรับตัวเข้ากับสไตล์ฟุตบอลสเปนได้ดีขึ้นในช่วงเปิดฤดูกาล ทำให้มีรายงานจากสื่อระบุว่า บาร์เซโลน่า สนใจซื้อขาดดาวยิงทีมชาติอังกฤษรายนี้ถาวรด้วยค่าตัวเพียง 29 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,276 ล้านบาท) แม้จะต่ำกว่าประเมินราคาจริงของนักเตะ แต่ถือเป็นตัวเลขที่ทีมคาตาลันพร้อมจ่าย
อย่างไรก็ตาม ฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต้องการค่าตัวที่สูงกว่านี้ เนื่องจาก แรชฟอร์ด อายุเพียง 27 ปี และยังมีศักยภาพกลับมาโชว์ฟอร์มเด่นได้อีกหลายปี ซึ่งทำให้การเจรจาซื้อขาดในอนาคตยังคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด
ความต่างระหว่างดีล “แรชฟอร์ด” กับ “ซานโช่”
สิ่งที่น่าสนใจคือความแตกต่างของเงื่อนไขดีลทั้งสอง เมื่อ เชลซี ต้องยอมจ่ายค่าชดเชยถึง 5 ล้านปอนด์ หลังไม่เซ็นสัญญาถาวรกับ ซานโช่ สะท้อนให้เห็นถึงท่าทีของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้ต้นสังกัดได้ผลตอบแทนแน่หากนักเตะไม่ได้รับการซื้อขาด แต่ในกรณีของ บาร์ซ่า กลับได้เงื่อนไขที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่ากว่าอย่างเห็นได้ชัด
แรชฟอร์ด กับเส้นทางใหม่ในลาลีกา
การย้ายมาเล่นใน ลา ลีกา ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญของ แรชฟอร์ด ที่จะรีเซ็ตเส้นทางอาชีพ หลังช่วงหลังโดนวิจารณ์หนักเรื่องฟอร์มตกกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่ในสเปนเจ้าตัวเริ่มแสดงให้เห็นถึงพลังและความมั่นใจที่กลับคืนมา โดยเฉพาะการเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง เลวานดอฟสกี้ และ เปดรี้ ที่ช่วยยกระดับเกมรุกของ บาร์เซโลน่า ให้มีความหลากหลายมากขึ้น
สถานการณ์ในตลาดนักเตะและบทเรียนของสโมสร
ในยุคที่ตลาดนักเตะเต็มไปด้วยการแข่งขันสูง สโมสรต่าง ๆ ต้องวางแผนดีลยืมตัวอย่างรอบคอบ การมีเงื่อนไขค่าปรับหรือไม่มี ย่อมส่งผลต่อการตัดสินใจในอนาคต และดีลของ แรชฟอร์ด ก็ถือเป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงการบริหารงานอย่างชาญฉลาดของ บาร์เซโลน่า ที่ลดความเสี่ยงในการลงทุน
ความสำคัญของดีลแบบยืมตัวในวงการฟุตบอลยุคใหม่
ดีลยืมตัวกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของหลายสโมสรในยุคปัจจุบัน เพราะช่วยลดความเสี่ยงด้านการเงิน และเปิดโอกาสให้นักเตะที่ฟอร์มตกได้รีเซ็ตอาชีพ เช่นกรณีของ แรชฟอร์ด ที่ได้กลับมาลงสนามสม่ำเสมอ และมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในเวทีต่างแดน
เมื่อดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ หาก แรชฟอร์ด ยังคงโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่ บาร์เซโลน่า อาจใช้สิทธิ์ซื้อขาดในช่วงซัมเมอร์หน้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งระยะยาวให้ทีม
ติดตามข่าวฟุตบอลร้อนแรงทุกวัน
แฟนบอลสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของดีลนี้ รวมถึงอัปเดตข่าววงการลูกหนังระดับโลก ทั้ง ผลบอลสด, บ้านผลบอล, ตลาดซื้อขายนักเตะ และบทวิเคราะห์สุดเข้มข้นได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา เว็บข่าวกีฬาที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้ที่สุดของแฟนบอลชาวไทย