
เมื่อวันแรกที่ รูเบน อโมริม เดินทางเข้าสู่รั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างมองเห็นแสงแห่งความหวังรำไร ว่ากุนซือจากแดนฝอยทองจะเข้ามาปลุกชีพ “ปีศาจแดง” ให้กลับมาเป็นมหาอำนาจลูกหนังอีกครั้ง แต่ผ่านไปเกือบหนึ่งปีเต็ม ภาพฝันนั้นกลับเริ่มจางลง เมื่อผลงานจริงในสนามกลับไม่เป็นไปตามที่คาด ตัวเลขสถิติชี้ชัดว่า แมนยูในยุคของอโมริมยังคง ย่ำอยู่กับที่ และอาจถึงเวลาที่บอร์ดต้องตั้งคำถามว่า “นี่ใช่คนที่จะพาทีมลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2028 จริงหรือไม่?”
📊 สถิติไม่โกหก! ผลงาน “อโมริม” ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างชัดเจน
จากการคุมทีม 49 นัดในทุกรายการ สถิติระบุชัดว่า รูเบน อโมริม พา แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะเพียง 19 เกม เสมอ 9 และแพ้มากถึง 21 นัด อัตราชนะอยู่ที่แค่ 39% เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำมากสำหรับสโมสรที่ตั้งเป้ากลับมาทวงบัลลังก์ พรีเมียร์ลีก ภายในไม่กี่ปี
สิ่งที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ จำนวนประตูได้-เสีย ที่พอๆ กันแบบน่าตกใจ โดยทีมยิงได้ 95 ประตู แต่ก็เสียถึง 95 ลูก เท่ากับว่าสไตล์การเล่นของอโมริมยังไม่สามารถสร้างสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับได้เลย
⚠️ พรีเมียร์ลีกกลายเป็นฝันร้าย คุม 33 นัด ชนะไม่ถึงสิบ
ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ “ปีศาจแดง” อโมริมคุมทีมไปแล้ว 33 นัด แต่เก็บชัยชนะได้เพียง 9 ครั้ง เสมอ 7 และแพ้ไปถึง 17 เกม อัตราชนะเพียง 27.3% พร้อมค่าเฉลี่ยแต้มต่อเกมแค่ 1.03 คะแนน เท่านั้น ถือว่าเป็นผลงานที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งสำหรับทีมที่มีเป้าหมายคว้าแชมป์
ล่าสุดเกมที่แพ้ เบรนท์ฟอร์ด แบบหมดรูป 1-3 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2025 เป็นอีกตัวอย่างชัดเจนว่าระบบที่อโมริมเลือกใช้ยังไม่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะ ระบบหลังสาม ที่เคยพาทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ประสบความสำเร็จ แต่กลับใช้ไม่ได้ผลในพรีเมียร์ลีกที่เน้นความเร็วและความแข็งแกร่ง
🔍 เจาะลึกระบบการเล่น “หลังสาม” ที่พังไม่เป็นท่า
หนึ่งในจุดยืนของอโมริม คือการยึดมั่นใน ระบบ 3-4-3 ที่เขาเชื่อมั่นจากความสำเร็จในลีกโปรตุเกส แต่ในอังกฤษ ระบบนี้กลับเปิดช่องโหว่ชัดเจน โดยเฉพาะแนวรับที่เสียถึง 53 ประตูในลีกเพียง 33 เกม ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาการประกบตัวและการปรับจังหวะในเกมรับ
เมื่อเทียบกับยุคของกุนซือก่อนหน้า เช่น เอริก เทน ฮาก ที่ยังมีช่วงเวลาที่ทีมสามารถเก็บคลีนชีตต่อเนื่องได้หลายเกม แต่ภายใต้ยุคอโมริม แมนยูยังไม่สามารถรักษาฟอร์มเก่งได้แม้เพียง 2 นัดติดต่อกัน
🧠 ตัวเลขบอกทุกอย่าง บอร์ดควรถามตัวเองว่าต้องไปต่อหรือพอแค่นี้
คำถามสำคัญตอนนี้คือ บอร์ดบริหารนำโดย เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ จะยังมองเห็นแสงแห่งความหวังในตัวอโมริมหรือไม่ เพราะ “ตัวเลขไม่เคยโกหก” สถิติเหล่านี้คือหลักฐานชัดเจนว่า แมนยูยังห่างไกลจากคำว่า “ทีมลุ้นแชมป์” อย่างแท้จริง
แม้เจ้าตัวจะอายุเพียง 40 ปี และมีทีมงานที่มีประสบการณ์สูง แต่หากผลงานยังไม่กระเตื้อง การรอคอยความสำเร็จอาจกลายเป็นการถอยหลังของสโมสร
📆 แผนลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก 2028 ยังพอมีหวังหรือไม่?
เป้าหมายระยะยาวของ “ปีศาจแดง” คือการกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์ภายในปี 2028 แต่จากผลงานตลอด 49 นัดที่ผ่านมา บ่งชี้ว่าการไปถึงเป้าหมายนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หากทีมยังขาดความแน่นอนในแท็กติกและความมั่นใจในสนาม
หากไม่มีการปรับเปลี่ยนแนวทางหรือปรับระบบการเล่นให้เข้ากับศักยภาพของนักเตะ ปัญหาเดิม ๆ จะยังคงอยู่ และความฝันที่จะกลับมายิ่งใหญ่ในลีกอาจเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด
🧾 สรุปสถิติ “รูเบน อโมริม” กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
พรีเมียร์ลีก:
- แข่ง 33
- ชนะ 9
- เสมอ 7
- แพ้ 17
- เปอร์เซ็นต์ชนะ 27.3%
- แต้มต่อเกม 1.03
ทุกรายการ:
- แข่ง 49
- ชนะ 19
- เสมอ 9
- แพ้ 21
- เปอร์เซ็นต์ชนะ 39%
- แต้มต่อเกม 1.35
- ยิง 95 เสีย 95
⚽ สำหรับแฟนบอล: การอ่านเกมผ่านตัวเลขช่วยวิเคราะห์อนาคตทีม
ในยุคฟุตบอลสมัยใหม่ ตัวเลขสถิติ คือเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทีม ไม่ใช่เพียงผลสกอร์ แต่รวมถึงความสม่ำเสมอ ความแม่นยำในการจบสกอร์ และประสิทธิภาพเกมรับ หากแฟนบอลเรียนรู้ที่จะอ่านและตีความตัวเลขเหล่านี้ จะเข้าใจได้มากขึ้นว่าเหตุใดทีมจึงประสบความสำเร็จหรือไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่วางไว้
📣 สัญญาณเตือนแรง! ปีศาจแดงต้องเร่งปรับก่อนทุกอย่างสายเกินไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของรูเบน อโมริม กำลังยืนอยู่บนทางแยกสำคัญ หากไม่ปรับปรุงทั้งแท็กติกและความมั่นใจของนักเตะ ความฝันในการลุ้นแชมป์อาจกลายเป็นเพียงภาพในอดีต แฟนบอลทั่วโลกต่างเฝ้ารอคำตอบว่า “ปีศาจแดง” จะเลือกไปต่อกับอโมริม หรือถึงเวลาหาผู้นำคนใหม่
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และข่าวฟุตบอลอัปเดตแบบเรียลไทม์ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา