คอนเต้เดือด! ส่งสัญญาณเตือนเดอ บรอยน์ อย่าคิดงัดข้อหลังไม่พอใจโดนเปลี่ยนตัว

สถานการณ์เริ่มร้อนแรงในถิ่นนาโปลี เมื่อ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือสายเฮี้ยบออกโรงเตือนตรงๆ ถึง เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่ง ว่าอย่าคิดงัดข้อหรือแสดงอาการไม่พอใจหลังโดนเปลี่ยนตัวออกจากสนามในเกมที่พ่าย เอซี มิลาน 1-2 ศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี พร้อมย้ำว่าเป็นการตัดสินใจทางแท็กติกที่ถูกต้อง แม้ผลการแข่งขันจะไม่เข้าข้างก็ตาม

เดอ บรอยน์ หงุดหงิดโดนเปลี่ยนตัว เกมพ่ายมิลาน

ในเกมนี้ นาโปลี ภายใต้การคุมทีมของคอนเต้ บุกไปเยือน เอซี มิลาน โดยมี เดอ บรอยน์ ลงเป็นตัวจริงและโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น เขายิงจุดโทษในนาทีที่ 60 ช่วยทีมไล่มาเป็น 1-2 จุดเปลี่ยนสำคัญคือในช่วงเวลานั้น มิลานเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน ทำให้แฟนบอลคิดว่าเดอ บรอยน์จะได้อยู่ในสนามเพื่อกดดันต่อเนื่อง

แต่เหตุการณ์กลับพลิกเมื่อ คอนเต้ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 72 ส่ง เอลยีฟ เอลมาส ลงสนามแทน ทำเอามิดฟิลด์เบลเยียมแสดงอาการหัวเสียอย่างชัดเจน ทั้งสีหน้าและท่าทางหลังจากเดินออกจากสนาม แม้จะจับมือเพื่อนร่วมทีมแต่แววตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

คอนเต้ตอบโต้ชัด! “อย่าหาเรื่องผิดคน”

หลังเกม นักข่าวได้ยิงคำถามถึงประเด็นเดือดนี้ และคอนเต้ก็ให้คำตอบที่สะท้อนถึงความเด็ดขาดของเขาอย่างชัดเจน

“ตอนนั้นผมพยายามส่งนักเตะที่มีสภาพร่างกายสดใหม่ลงไปเล่น เพราะว่าฝั่งมิลานเริ่มล้ากันแล้ว และเราต้องการบางอย่างที่ต่างออกไป ผมคิดว่าการเปลี่ยนตัวในจังหวะนั้นถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง”

“ผมหวังว่าที่เขาหงุดหงิด มันจะเป็นเพราะเรื่องสกอร์นะ เพราะถ้าเขาหัวเสียกับเรื่องอื่นแล้วล่ะก็ ผมบอกได้เลยว่าเขากำลังหาเรื่องผิดคนแล้ว”

คำพูดนี้ชัดเจนว่า คอนเต้ไม่ยอมให้ใครมาเล่นเหนือคำสั่ง โดยเฉพาะในระบบที่เขาวางไว้ เพราะเขาคือคนควบคุมแท็กติกและต้องการนักเตะที่พร้อมปฏิบัติตามแผน ไม่ใช่เล่นตามอารมณ์ส่วนตัว

มุมมองแท็กติก: คอนเต้เน้นทีมเวิร์กมากกว่าดาวเด่น

กุนซือชาวอิตาเลียนรายนี้มีชื่อเสียงเรื่องระเบียบวินัยและแท็กติกที่เข้มข้น เขาเชื่อว่าฟุตบอลคือเกมของทีม ไม่ใช่ของคนเดียว การตัดสินใจเปลี่ยนตัวจึงไม่ใช่การตำหนิผลงานของ เดอ บรอยน์ แต่เป็นการปรับเกมเพื่อสร้างความสมดุลและกดดันคู่แข่งให้มากขึ้น
แม้จะเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่ในระบบของคอนเต้ ใครก็ตามที่ไม่เข้าใจหรือไม่ยอมรับการตัดสินใจของโค้ช ย่อมอยู่ยาก

เดอ บรอยน์ต้องปรับตัวกับระบบใหม่

ตั้งแต่ย้ายมานาโปลี เดอ บรอยน์ยังอยู่ในช่วงปรับตัว ทั้งสไตล์การเล่นที่เน้นสปีดและความแข็งแกร่งในแดนกลาง ซึ่งแตกต่างจากช่วงค้าแข้งกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เน้นการครองบอลและการสร้างสรรค์เกม คอนเต้ต้องการให้เขาเป็นมากกว่าเพลย์เมกเกอร์ ต้องช่วยเพรสซิ่งและวิ่งตลอด 90 นาที การโดนเปลี่ยนตัวจึงอาจสะท้อนสภาพร่างกายที่ยังไม่เต็มร้อย

ความสัมพันธ์ระหว่างโค้ชกับนักเตะคือกุญแจสำคัญ

ในโลกฟุตบอลระดับสูง การเข้าใจบทบาทของแต่ละคนคือสิ่งจำเป็น แม้จะเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่การยอมรับคำสั่งของโค้ชคือหัวใจของทีมที่ประสบความสำเร็จ ตัวอย่างจากทีมใหญ่อย่าง เรอัล มาดริด หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงให้เห็นว่าแม้แต่ดาวดังอย่างโมดริชหรือเดอ บรอยน์ในอดีตก็ต้องนั่งสำรองเพื่อประโยชน์ของทีม การเคารพแท็กติกคือสิ่งที่แยกทีมแชมป์ออกจากทีมธรรมดา

บทเรียนสำคัญสำหรับนาโปลี

ความพ่ายแพ้ต่อมิลานอาจไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่คือบทเรียนที่ทำให้ทีมต้องเข้มแข็งมากขึ้น ทั้งในแง่ของการยอมรับการตัดสินใจของโค้ชและการรวมพลังในห้องแต่งตัว หากเดอ บรอยน์เข้าใจแนวทางของคอนเต้และปรับจูนให้เข้ากับทีมได้เร็ว นาโปลีจะยิ่งแข็งแกร่งและพร้อมท้าทายแชมป์ในฤดูกาลนี้

แฟนบอลสามารถติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของ นาโปลี, บทวิเคราะห์แท็กติก, และข่าวร้อนวงการลูกหนังยุโรป ได้ทุกวัน ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา แหล่งรวมข่าวบอลครบเครื่องสำหรับคอลูกหนังตัวจริง