
แฟนบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องอ้าปากค้าง เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟอร์มยังไม่นิ่ง บุกไปโดน เบรนท์ฟอร์ด เปิดบ้านสอนเชิง 3-1 ที่สนามจีเทค คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา เกมนี้ “ผีแดง” ได้ประตูแรกจาก เบนจามิน เชชโก้ ดาวยิงค่าตัวแพง แต่ก็ไม่เพียงพอ เพราะเจ้าถิ่นเล่นดุดันกว่า คมกว่า และเฉียบขาดกว่า โดยเฉพาะ ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารอดีตเด็กหงส์ ที่โชว์ซูเปอร์เซฟจุดโทษจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส พาทีมเก็บสามแต้มสุดล้ำค่า
เบรนท์ฟอร์ด เขี้ยวลากดิน เปิดบ้านอัด แมนยู 3-1
เริ่มเกมเพียงไม่ถึง 10 นาที เจ้าถิ่นเบรนท์ฟอร์ดมาแรงสุดขีด ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จาก อิกอร์ ติอาโก้ ในนาทีที่ 8 ก่อนที่ดาวยิงตัวเดิมจะมาบวกเพิ่มอีกลูกในนาทีที่ 20 พาเบรนท์ฟอร์ดนำห่าง 2-0 ช็อกแฟนผีทั่วโลก แม้ “ปีศาจแดง” จะตีไข่แตกได้จาก เบนจามิน เชชโก้ ในนาทีที่ 26 ไล่มา 1-2 แต่เกมรับยังมีปัญหาและเสียสมาธิในช่วงท้ายเกม ก่อนจะมาโดนปิดกล่องจากลูกยิงของ มาธีอัส เยนเซ่น นาทีที่ 90+6 ทำให้จบเกมด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน 3-1
ชัยชนะเกมนี้ทำให้เบรนท์ฟอร์ดเก็บเพิ่มเป็น 7 คะแนนจาก 6 นัด แซงแมนยูขึ้นอันดับ 11 ของตาราง โดยมีแต้มเท่ากันแต่ประตูได้เสียดีกว่า ส่วน “ผีแดง” ต้องกลับไปทบทวน เพราะฟอร์มนอกบ้านยังคงน่าเป็นห่วง
5 ประเด็นร้อนหลังเกม เบรนท์ฟอร์ด vs แมนยู
1. เชชโก้ ยิงประตูแรกในสีเสื้อแมนยู
ข่าวดีเพียงอย่างเดียวของแฟนผีในเกมนี้คือ เบนจามิน เชชโก้ ดาวยิงทีมชาติสโลวีเนีย ค่าตัวรวมกว่า 85 ล้านยูโร (ประมาณ 3,145 ล้านบาท) สามารถเบิกสกอร์แรกให้กับทีมได้สำเร็จ จากจังหวะซ้ำจ่อ ๆ ในนาทีที่ 26 ซึ่งช่วยให้ทีมไล่มา 1-2 ชั่วคราว นี่คือสัญญาณบวกที่เจ้าตัวเริ่มปรับตัวกับลีกอังกฤษได้ แต่ปัญหาของแมนยูคือเกมรับที่ยังเสียประตูง่ายเกินไป
2. แผนเพรสซิ่งของเบรนท์ฟอร์ดเล่นงานเต็ม ๆ
ต้องยกเครดิตให้ คีธ แอนดรูว์ส กุนซือเบรนท์ฟอร์ด ที่จัดแท็กติกได้ยอดเยี่ยม สั่งลูกทีมเพรสซิ่งตั้งแต่แดนบนจนผีแดงตั้งเกมไม่ได้ โดยเฉพาะคู่หัวหอกอย่าง อิกอร์ ติอาโก้ และ เควิน ชาเด่อ ที่วิ่งไม่หยุด ขยันบีบบอลและปั่นป่วนแนวรับคู่แข่ง ขณะที่แดนกลางมีทั้ง มิกเคล ดามส์การ์ด และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่คุมจังหวะและกดดันได้ดีตลอด 90 นาที ทำให้ระบบหลังสามของแมนยูที่ใช้งาน อโมริม ดูหลวมและขาดความมั่นใจอย่างชัดเจน
3. อดีตหงส์คืนชีพ! เคลเลเฮอร์ เซฟโทษสุดเด็ด
จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 76 เมื่อแมนยูได้จุดโทษจากจังหวะที่ ไบรอัน เอ็มเบอโม่ ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ โอกาสทองของผีแดงที่จะกลับเข้าสู่เกมต้องดับวูบ เพราะ ควีวิน เคลเลเฮอร์ อดีตนายทวารลิเวอร์พูลที่เพิ่งย้ายมาเบรนท์ฟอร์ดฤดูกาลนี้ โชว์เซฟลูกยิงของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้อย่างเหลือเชื่อ กลายเป็นฮีโร่ของเกม และสร้างความสะใจให้แฟน “เดอะ ค็อป” ไม่น้อย
4. ฟอร์มนอกบ้านของผีแดงยังแย่ต่อเนื่อง
ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ตอกย้ำสถิติอันน่าผิดหวังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ไม่สามารถเก็บชัยนอกบ้านได้เลยใน 8 นัดหลังสุด นับตั้งแต่ปลายฤดูกาลที่แล้ว เกมรับยังเปราะ เกมรุกขาดความคม และขาดความมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด ตรงกันข้ามกับเบรนท์ฟอร์ดที่โชว์ฟอร์มในบ้านได้อย่างแข็งแกร่ง ชนะ 2 เสมอ 1 จาก 3 เกมล่าสุดที่จีเทค สเตเดี้ยม
5. โปรแกรมโหดรอทั้งสองทีม
หลังจากนี้ เบรนท์ฟอร์ด ต้องเจอโปรแกรมสุดโหด 3 นัดติดต่อกัน เริ่มจากเปิดบ้านรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมแชมป์เก่า ต่อด้วยการบุกเยือน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และปิดท้ายด้วยศึกใหญ่เปิดรังต้อนรับ ลิเวอร์พูล ขณะที่ แมนยู ก็หนักไม่แพ้กัน จะเปิดบ้านรับ ซันเดอร์แลนด์ ต่อด้วยศึกแดงเดือดบุกเยือน ลิเวอร์พูล ก่อนกลับมาเฝ้ารังเจอ ไบรท์ตัน เรียกว่าเป็นช่วงตัดสินชะตาว่าทีมของ “ปีศาจแดง” จะยกระดับได้หรือไม่
สัญญาณเตือนที่แมนยูต้องเร่งแก้
เกมนี้สะท้อนให้เห็นหลายจุดอ่อนของแมนยู ทั้งเกมรับที่เสียสมาธิ การเพรสซิ่งที่ไม่ต่อเนื่อง และการขาดผู้นำในสนาม หากไม่เร่งปรับปรุงโดยเร็ว โอกาสหลุดท็อปโฟร์จะเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกัน ทีมอย่างเบรนท์ฟอร์ดแสดงให้เห็นถึงการวางแผนที่เฉียบคม และการทำงานเป็นระบบ แม้ไม่มีซูเปอร์สตาร์แต่เล่นด้วยใจและความเข้าใจเกม
แฟนผีต้องอดทน และรอความเปลี่ยนแปลง
สำหรับแฟนบอล “ปีศาจแดง” ต้องยอมรับว่านี่คือช่วงเปลี่ยนผ่านที่ยากลำบาก แต่ทุกทีมยิ่งใหญ่เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นในวันเดียว หากทีมสามารถเรียนรู้จากความพ่ายแพ้ และแก้ไขอย่างจริงจัง โอกาสกลับมาผงาดในลีกก็ยังเปิดกว้าง
ติดตามข่าวพรีเมียร์ลีกและความเคลื่อนไหวแมนยู-เบรนท์ฟอร์ด ได้ที่ บ้านกีฬา
ใครที่อยากอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้งฟอร์มของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เบรนท์ฟอร์ด, และทีมใหญ่ทีมอื่น ๆ รวมถึงวิเคราะห์เกมเด็ด ตารางคะแนน และผลบอลล่าสุด ติดตามได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา ครบทุกข่าวฟุตบอลที่คุณไม่ควรพลาด