
แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้เฮรับข่าวดี เมื่อสโมสรแชมป์พรีเมียร์ลีก ประกาศต่อสัญญาใหม่ระยะยาวกับ นิโค โอไรลีย์ กองกลางดาวรุ่งพลังหนุ่ม ออกไปจนถึงปี 2030 พร้อมเสียงยืนยันจากเจ้าตัวว่าขอทุ่มสุดตัวเพื่อก้าวขึ้นเป็น ตัวหลักของทีมชุดใหญ่ ให้ได้ในอนาคตอันใกล้
แมนซิตี้ล็อกอนาคตดาวรุ่งอนาคตไกล
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมมหาอำนาจแห่งเกาะอังกฤษ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เดินหน้าวางแผนอนาคตระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา ว่าได้ทำการขยายสัญญากับ นิโค โอไรลีย์ แข้งดาวรุ่งเลือดผู้ดีวัย 20 ปี ออกไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2030
การต่อสัญญาครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของสโมสรที่มีต่อนักเตะรายนี้อย่างเต็มเปี่ยม หลังเจ้าตัวถูกจับตามองมานานจากศักยภาพที่โดดเด่นทั้งในเกมรุกและเกมรับ ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ แข็งแกร่ง และสามารถเล่นได้ทั้งในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวกลาง รวมถึง แบ็กซ้าย ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในนักเตะรุ่นใหม่
เส้นทางสู่ทีมชุดใหญ่ของโอไรลีย์
นิโค โอไรลีย์ เติบโตมากับอะคาเดมี่ของแมนซิตี้ตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ และไต่เต้าขึ้นมาทีละขั้นจนได้โอกาสเปิดตัวในทีมชุดใหญ่ในปี 2024 จากนั้นลงสนามให้ทีมไปแล้วกว่า 27 นัด รวมทุกรายการ ทำได้ 5 ประตู และ 2 แอสซิสต์ ถือเป็นผลงานที่น่าประทับใจสำหรับดาวรุ่งที่เพิ่งเริ่มต้นเส้นทางอาชีพเต็มตัว
เจ้าตัวเปิดใจหลังได้รับสัญญาใหม่ว่า
“นี่คือวันที่ผมจะไม่มีวันลืมเลย ผมอยู่กับ แมนซิตี้ มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และการที่ได้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่และได้รับโอกาสลงเล่น มันคือฝันที่กลายเป็นจริงสำหรับผม และการได้สัญญาฉบับใหม่เป็นรางวัลตอบแทน มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ”
ความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดแค่การต่อสัญญา
แม้เพิ่งได้รับรางวัลตอบแทนความทุ่มเทด้วยสัญญาระยะยาว แต่ โอไรลีย์ ยืนยันว่าเป้าหมายของเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่การมีชื่อในทีมชุดใหญ่เท่านั้น หากแต่ต้องการต่อสู้เพื่อยึดตำแหน่งตัวจริงในระยะยาว
“ผมไม่อยากเป็นแค่ผู้เล่นสำรอง ผมอยู่ที่นี่เพื่อต่อสู้เพื่อตำแหน่งของตัวเอง ผมอยากมีชื่อลงสนามทุกสัปดาห์ นั่นแหละคือเป้าหมายของผม และผมจะพยายามทำให้สำเร็จ”
คำพูดของเขาแสดงถึงความกระหายและทัศนคติที่เปี่ยมไปด้วยแรงผลักดัน ซึ่งเข้ากับแนวทางของสโมสรที่เน้นการพัฒนาเยาวชนให้กลายเป็นกำลังหลักในอนาคต
บทบาทในทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ภายใต้การดูแลของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการปั้นนักเตะดาวรุ่งให้กลายเป็นผู้เล่นระดับโลก เช่น ฟิล โฟเด้น และ โคล พาล์เมอร์ (ก่อนย้ายไปเชลซี) ทำให้แฟนบอลเชื่อว่า โอไรลีย์ จะได้รับโอกาสพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ความสามารถในการเล่นได้หลายตำแหน่งและทักษะทางแท็คติกที่ดี ทำให้เขาเป็นหนึ่งในตัวเลือกสำคัญสำหรับการหมุนเวียนทีมในฤดูกาลที่มีโปรแกรมเตะถี่ ทั้งใน พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
ดาวรุ่งเลือดอังกฤษกับความหวังใหม่ของเรือใบสีฟ้า
ปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีขุมกำลังดาวรุ่งมากมาย แต่ชื่อของ นิโค โอไรลีย์ กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดในฐานะ “มิดฟิลด์แห่งอนาคต” ที่อาจก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญแทนรุ่นพี่อย่าง เควิน เดอ บรอยน์ หรือ โรดรี้ ในอนาคต
การต่อสัญญาครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การรักษานักเตะฝีเท้าดีเอาไว้เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงนโยบายระยะยาวของสโมสรที่ต้องการสร้างทีมจากแกนหลักเยาวชนที่เติบโตมาจากระบบของตัวเอง
ความสำคัญของการวางรากฐานในระยะยาว
สำหรับสโมสรชั้นนำอย่างแมนซิตี้ การรักษาดาวรุ่งที่มีศักยภาพให้อยู่กับทีมถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากช่วยลดความเสี่ยงจากการซื้อผู้เล่นใหม่ที่อาจไม่ปรับตัวได้ ยังสร้างความต่อเนื่องในแผนระยะยาว และช่วยสร้างเอกลักษณ์ของทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
แฟนบอลเรือใบสีฟ้าต่างตั้งความหวังว่า นิโค โอไรลีย์ จะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และกลายเป็นหนึ่งในเสาหลักของทีมที่พร้อมสานต่อความยิ่งใหญ่ของสโมสร
ติดตามข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและความเคลื่อนไหวของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ทุกวัน ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา