แฟนบอล “กว่างโซ้งมหาภัย” ได้เฮกันสนั่น เมื่อ “เจเจ” ภพธรรม พรคต แข้งดาวรุ่งวัยเพียง 15 ปี ได้รับโอกาสลงสนามเกมใหญ่ในศึก BYD SEALION 6 LEAGUE 1 ฤดูกาล 2025/26 แมตช์วีคที่ 5 ซึ่ง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด 1-0 กลายเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ของสโมสร และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงแนวทางการสร้างดาวรุ่งที่ชัดเจนของทีมภายใต้การดูแลของ “โค้ชฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร
ภพธรรม เด็กปั้นวัย 15 ปี กับก้าวแรกที่ยิ่งใหญ่
การส่ง “เจเจ” ลงสนามถือเป็นความกล้าหาญของโค้ชและสโมสร เพราะเขาคือนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ที่ได้เล่นในลีกสูงสุดของประเทศไทย ด้วยวัยเพียง 15 ปี 11 เดือน 16 วัน โดยสองอันดับแรกคือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่เคยลงเล่นตอนอายุ 15 ปี 8 เดือน 22 วัน และ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่ลงสนามในวัย 15 ปี 11 เดือน 5 วัน ซึ่งทั้งสองคนต่างก้าวขึ้นไปเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในปัจจุบัน
“โค้ชฮั่น” กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า
“เราไม่อยากจะพูดไปก่อน แต่อยากให้ผลงานของ ‘เจเจ’ เป็นเครื่องชี้วัดว่าน้องจะยืนระยะของตัวเองได้ไหม สามารถจะก้าวขึ้นไปเป็นผู้เล่นที่มีคลาสได้ไหม ที่สำคัญที่สุดคือมีความสม่ำเสมอได้ไหม”
วางรากฐานดูแลเยาวชนเข้มข้น ทั้งร่างกายและจิตใจ
แม้จะยังอยู่ในช่วงวัยเรียนระดับ ม.4 แต่สโมสรได้ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งเรื่องโภชนาการ การฝึกซ้อม และสุขภาพร่างกาย เพื่อให้เด็กมีความพร้อมสำหรับการเล่นระดับอาชีพในระยะยาว
“แต่ว่าเด็กก็เพิ่งอยู่ ม.4 ยังต้องไปโรงเรียนอยู่ตอนเช้า แต่ว่าเราพยายามให้น้องได้มีแนวทางดูแลร่างกายในการทานอาหาร มีไอเดียในการที่จะเสริมสร้างร่างกาย”
ในปีนี้ เชียงราย ยูไนเต็ด ลงทุนยกระดับระบบโภชนาการนักเตะ โดยจัดโปรแกรมตรวจเลือด วิเคราะห์ค่าวิตามิน และให้คำแนะนำด้านอาหารอย่างละเอียด เพื่อให้แต่ละคนเข้าใจสภาพร่างกายของตนเอง และรู้ว่าควรเสริมอะไรเพิ่มเติม
“ประจวบกับปีนี้เราให้ความสำคัญกับเรื่องอาหารรวมถึงการตรวจเลือด ดูค่าวิตามิน มีการวิเคราะห์ตัวเลขละเอียด น้อง ๆ ก็จะรู้ตัวเองว่าขาดตรงไหนไป จากที่สโมสรมีให้ทั้งเรื่องโปรตีน หรือเรื่องอาหารเสริมต่าง ๆ ที่ขาด ทุกคนก็ต้องดูแลตัวเอง”
ซ้อมดีมีสิทธิ์ลง โค้ชฮั่นเชื่อมั่นเด็กสร้าง
สิ่งสำคัญที่ทำให้ “เจเจ” ได้รับโอกาสคือผลงานการฝึกซ้อมที่ยอดเยี่ยม จนได้รับการยอมรับจากรุ่นพี่ในทีม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าชื่อเสียง
“เรื่องของการซ้อม เจเจ เองที่ถูกยอมรับจากผู้เล่นในทีม ถ้าสมมติรุ่นพี่ในทีมไม่ยอมรับผมจะส่งเด็กลงไปก็ไม่เป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว”
ฟอร์มในสนามซ้อมทำให้เขาได้รับความมั่นใจจากทุกฝ่าย และพร้อมก้าวขึ้นสู่การแข่งขันจริงในศึก ไทยลีก
“สิ่งที่เขาสร้างความมั่นใจคือฟอร์มในการซ้อม มันก็ตอบแทนในสิ่งที่เขาทำ และทุกคนก็ยอมรับ การซ้อม วิธีการเล่น เขาพร้อมแล้วที่จะเล่น ไทยลีก”
แผนพัฒนาอย่างเป็นขั้นตอน สร้างเด็กให้เติบโตมั่นคง
“โค้ชฮั่น” ยืนยันว่า สโมสรจะค่อย ๆ เพิ่มเวลาในการลงสนามให้กับ “เจเจ” ตามความพร้อม และผลจากการฝึกซ้อมที่คงเส้นคงวา เพราะการแข่งขันในทีมเข้มข้นมาก และทุกตำแหน่งมีการแย่งชิงกันสูง
“คงจะค่อย ๆ เพิ่มเวลาให้ ถ้ายังมีการฝึกซ้อมที่คงเส้นคงวา เพราะบรรยากาศในทีม การแข่งภายในทีมมันเข้มข้นและแข่งขันกันทุกตำแหน่งจริง ๆ นักฟุตบอลทุกคนไม่มีใครยอมใคร”
นอกจากนี้ สโมสรยังมีดาวรุ่งอีกหลายรายในทีมที่กำลังรอโอกาส โดยเน้นกระบวนการฝึกซ้อมและความพร้อมเป็นหลัก เพื่อสร้างระบบเยาวชนที่ยั่งยืน
“เจเจ อาจจะถูกพูดถึงมากหน่อย เพราะเป็นนักเตะอายุน้อยอันดับ 3 ไทยลีก แต่จริง ๆ แล้วเรามีนักเตะอายุน้อยอยู่ในทีมหลายคนที่ยังไม่ได้โอกาสลงเล่น ก็อยู่ที่การฝึกซ้อมก็อยากให้แฟนบอลเชื่อมั่นและให้กำลังใจกับแนวทางการทำทีมของเราในฤดูกาลนี้”
แรงบันดาลใจสำหรับเยาวชนไทย
เส้นทางของ “ภพธรรม” เป็นตัวอย่างชัดเจนว่าความมุ่งมั่นและวินัยสามารถพาเด็กไทยก้าวสู่ลีกสูงสุดได้ แม้จะอายุน้อยก็ตาม เขาเดินตามรอยเท้าแข้งรุ่นพี่อย่าง ศุภณัฏฐ์ และ เอกนิษฐ์ ที่แจ้งเกิดในวัยเยาว์ และต่อยอดสู่ความสำเร็จในทีมชาติ การได้รับโอกาสของ “เจเจ” สะท้อนถึงทิศทางใหม่ของฟุตบอลไทย ที่เปิดพื้นที่ให้เด็กมีเวทีแสดงศักยภาพอย่างแท้จริง
บ้านกีฬา ชวนแฟนบอลส่งแรงใจให้ดาวรุ่งไทย
เส้นทางของ “เจเจ” เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น แต่ด้วยแนวทางการดูแลที่เข้มข้นของสโมสร และการสนับสนุนจากทีมงานมืออาชีพ เขามีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมในอนาคตอันใกล้ แฟนบอลร่วมส่งแรงใจให้ดาวรุ่งรายนี้เดินหน้าสานฝัน และติดตามทุกความเคลื่อนไหวของ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา ศูนย์รวมข่าวฟุตบอลไทยลีกสุดเข้มข้นที่แฟนบอลไม่ควรพลาด
