คาชิม่าทะยานสู่ฝัน
“กวางเขาเหล็ก” คาชิม่า แอนท์เลอร์ส เดินหน้าทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในศึก เจลีก 2025 หลังผ่าน 31 นัด ยึดตำแหน่งจ่าฝูงอย่างเหนียวแน่นด้วย 61 คะแนน นำ วิสเซล โกเบ รองจ่าฝูงอยู่ 4 แต้มเต็ม ท่ามกลางบรรยากาศการลุ้นแชมป์ที่เข้มข้นและกดดันสุดขีด โดยเหลือโปรแกรมฟาดแข้งเพียง 7 นัดสุดท้าย
ภายใต้การคุมทีมของ โทรุ โอนิกิ กุนซือมากประสบการณ์ที่เคยสร้างตำนานกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ “กวางเขาเหล็ก” กำลังมีโอกาสครั้งใหญ่ที่จะกลับมาทวงบัลลังก์ลีกสูงสุดสมัยที่ 9 หลังห่างหายความสำเร็จไปนานถึง 9 ปีเต็ม
โปรแกรมเดือนชี้ชะตา
เดือนตุลาคมถือเป็นด่านหินที่แฟนบอลทั้งญี่ปุ่นและเอเชียต้องจับตามอง เพราะ คาชิม่า ต้องดวลกับสองทีมลุ้นแชมป์โดยตรง เริ่มจากเกมเยือน วิสเซล โกเบ วันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งอาจเป็นแมตช์ชี้ขาดอันดับหัวตาราง ต่อด้วยการบุกไปเยือน เกียวโต ซังงะ ในวันที่ 25 ตุลาคม เกมนี้ก็ไม่ต่างจากรอบตัดเชือก เพราะเกียวโตกำลังขับเคี่ยวเพื่อแย่งบัลลังก์เหมือนกัน หากเก็บแต้มสำคัญได้ครบตามเป้า มีโอกาสสูงที่คาชิม่าจะปิดจ๊อบเถลิงแชมป์ทันที
เส้นทางลุ้นสถิติส่วนตัวกุนซือ
นอกจากการล่าแชมป์ในนามสโมสรแล้ว โทรุ โอนิกิ เองก็กำลังเดินหน้าสู่หน้าประวัติศาสตร์ หากสามารถพาคาชิม่าคว้าแชมป์ได้สำเร็จ เขาจะกลายเป็นกุนซือที่ผงาดแชมป์เจลีกถึง 5 สมัย หลังเคยสร้างความยิ่งใหญ่กับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ มาแล้ว 4 ครั้ง นี่จึงเป็นโอกาสทองที่จะพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่แค่ “โค้ชขาประจำ” แต่คือผู้ปลุกชีวิตใหม่ให้กวางเขาเหล็กอย่างแท้จริง
ตารางคะแนนลุ้นแชมป์เจลีก 2025 (หลังแข่ง 31 นัด)
- คาชิม่า แอนท์เลอร์ส : 61 คะแนน (+20 ประตู)
- วิสเซล โกเบ : 57 คะแนน (+15 ประตู)
- เกียวโต ซังงะ : 56 คะแนน (+21 ประตู)
- คาชิว่า เรย์โซล : 56 คะแนน (+14 ประตู)
โปรแกรมที่เหลือของคาชิม่า แอนท์เลอร์ส
- 27 ก.ย.68 : นาโงย่า แกรมปัส (เยือน)
- 5 ต.ค.68 : กัมบะ โอซากา (เหย้า) – ลุ้นโควตาเอเชีย
- 17 ต.ค.68 : วิสเซล โกเบ (เยือน) – ลุ้นแชมป์
- 25 ต.ค.68 : เกียวโต ซังงะ (เยือน) – ลุ้นแชมป์
- 8 พ.ย.68 : โยโกฮามา เอฟซี (เหย้า) – หนีตกชั้น
- 30 พ.ย.68 : โตเกียว เวอร์ดี้ (เยือน) – หนีตกชั้น
- 6 ธ.ค.68 : โยโกฮามา เอฟ มารีนอส (เหย้า) – หนีตกชั้น
ความหมายของการกลับมาทวงบัลลังก์
หากคาชิม่า แอนท์เลอร์สปิดฤดูกาลได้อย่างสมบูรณ์แบบ การคว้าแชมป์ครั้งนี้จะไม่ใช่แค่ความสำเร็จในเชิงตัวเลข แต่ยังหมายถึงการฟื้นคืนความยิ่งใหญ่ของสโมสรที่เคยครองความเป็น “ราชาแห่งเจลีก” ในอดีต การรอคอยที่ยาวนานเกือบหนึ่งทศวรรษอาจสิ้นสุดลงพร้อมเสียงเชียร์สนั่นจากแฟนบอลทั่วประเทศญี่ปุ่น
มรดกแห่งเจลีกที่ยังคงมีมนต์ขลัง
เจลีกถือเป็นลีกฟุตบอลที่สร้างแรงบันดาลใจให้หลายชาติในเอเชีย ทั้งด้านการจัดการ การพัฒนานักเตะ และการสร้างบรรยากาศที่แฟนบอลมีส่วนร่วมตลอดทุกเกม การที่ทีมอย่างคาชิม่ากลับมามีบทบาทในเวทีลุ้นแชมป์อีกครั้งจึงสะท้อนถึงเสน่ห์ของลีกที่เปิดโอกาสให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และเป็นเครื่องยืนยันว่าเจลีกยังคงเป็นหนึ่งในลีกที่ทรงพลังที่สุดในทวีป
แฟนบอลห้ามกระพริบตา
เส้นทางสู่บัลลังก์ยังอีกไกลและเต็มไปด้วยแรงกดดัน แต่บรรยากาศการลุ้นแชมป์เจลีกปีนี้บอกเลยว่า “เดือดทะลุขีด” ทุกแต้มมีค่า ทุกเกมคือตัดสินใจชะตา ทีมไหนพลาดแม้แต่นิดเดียวอาจหลุดวงโคจรทันที และนี่คือฤดูกาลที่ทุกคนต้องจับตาดูว่ากวางเขาเหล็กจะกลับมาผงาดหรือถูกหยุดไว้กลางทาง
คอบอลไทยที่อยากเกาะติดสถานการณ์ลุ้นแชมป์เจลีก 2025 ห้ามพลาด! ติดตามข่าวอัปเดต ผลการแข่งขัน และบทวิเคราะห์เข้มข้นได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา
