
กรมอุตุนิยมวิทยา ออก ประกาศฉบับที่ 4 เตือนผลกระทบจาก พายุไต้ฝุ่น “รากาซา” (RAGASA) ที่กำลังปกคลุมทะเลจีนใต้ตอนบน แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลของมรสุมและร่องความกดอากาศ ทำให้ ประเทศไทยหลายภาคตั้งแต่เหนือ อีสาน กลาง ตะวันออก รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล ต้องเจอฝนตกหนักถึงหนักมาก พร้อมทั้งคลื่นลมแรงในทะเลอันดามันและอ่าวไทย
เส้นทางพายุรากาซาและสถานการณ์ล่าสุด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.ย. 68 ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่นรากาซาอยู่บริเวณละติจูด 20.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.6 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางราว 195 กม./ชม. และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย คาดว่าจะเข้าใกล้เกาะฮ่องกง ก่อนเคลื่อนผ่านชายฝั่งตอนใต้ของจีน และลงสู่อ่าวตังเกี๋ยวันที่ 25 ก.ย. หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน
แม้จะไม่เคลื่อนเข้าประเทศไทยโดยตรง แต่ผลกระทบจะทำให้ ร่องมรสุมที่พาดผ่านไทยแรงขึ้น และ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้เกิดฝนถล่มหนักในหลายพื้นที่
พื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
กรมอุตุฯ ย้ำชัดว่าในช่วง 23–26 ก.ย. 68 ต้องจับตาอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เพราะอาจทำให้เกิด
- น้ำท่วมฉับพลัน
- น้ำป่าไหลหลาก
- น้ำล้นตลิ่ง
โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตชุมชนเมือง
สถานการณ์คลื่นลมและผลกระทบทางทะเล
- ทะเลอันดามันตอนบน คลื่นสูง 2–3 เมตร
- บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงเกิน 3 เมตร
- อ่าวไทยตอนบน คลื่นสูง 1–2 เมตร และอาจสูงกว่าในบางจุด
กรมอุตุฯ แนะนำ ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งระหว่างวันที่ 24–26 ก.ย.
พยากรณ์อากาศวันนี้และพรุ่งนี้ (23–24 ก.ย.)
- ภาคเหนือ: ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ หนักสุดที่แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ตาก และเพชรบูรณ์
- ภาคอีสาน: ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ หนักสุดที่บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร ยโสธร ศรีสะเกษ และอุบลฯ
- ภาคกลาง: ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่ หนักที่นครสวรรค์ กาญจนบุรี ราชบุรี
- ภาคตะวันออก: ฝนฟ้าคะนอง 70% หนักที่นครนายก จันทบุรี ตราด คลื่นทะเล 1–2 เมตร
- ภาคใต้: ฝั่งตะวันตกฝนมากกว่าฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะระนอง พังงา ภูเก็ต
- กรุงเทพฯ และปริมณฑล: ฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
ผลกระทบต่างประเทศและแรงกดดันในภูมิภาค
- ฟิลิปปินส์: รากาซาพัดถล่มตอนเหนือของเกาะลูซอน ลมแรง 230 กม./ชม. บ้านเรือนพัง ต้นไม้โค่น ประชาชนหลายหมื่นต้องอพยพ
- จีน: เมืองเซินเจิ้นเตรียมอพยพกว่า 400,000 คน ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 500 ไฟลต์
- ไต้หวัน: แม้ไม่โดนโดยตรง แต่เจอฝนฟ้าคะนองและคลื่นลมแรงจากรัศมีพายุที่กว้างถึง 320 กม.
- เวียดนาม: นายกรัฐมนตรีประกาศเตรียมรับมือเต็มกำลัง คาดว่าพายุจะรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2024 คลื่นทะเลสูงกว่า 10 เมตร
สิ่งที่ประชาชนไทยควรทำตอนนี้
- ติดตามประกาศจากกรมอุตุฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเวลา 17.00 น. ของแต่ละวัน
- เตรียมอุปกรณ์ยังชีพและวางแผนรับมือหากอยู่พื้นที่เสี่ยง
- หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านเส้นทางภูเขาและพื้นที่น้ำท่วมขัง
- ชาวประมงและชาวเรือเพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการออกทะเลในวันที่ 24–26 ก.ย.
- เกษตรกรป้องกันผลผลิตจากฝนตกหนัก และตรวจสอบระบบระบายน้ำรอบพื้นที่เพาะปลูก
บทสรุป
พายุรากาซา อาจไม่พัดเข้าประเทศไทยโดยตรง แต่พลังของมันกำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนทางอากาศที่ไทยเลี่ยงไม่ได้ ผลคือฝนตกหนัก คลื่นลมแรง และความเสี่ยงด้านน้ำท่วมที่ทุกคนต้องระวังให้มากที่สุด การเตรียมตัวและติดตามข่าวจาก กรมอุตุนิยมวิทยา คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดความเสียหาย และปกป้องชีวิตกับทรัพย์สินได้ทันเวลา
ขอบคุณรูปภาพและคลิปจาก กรมอุตุนิยมวิทยา
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวเรื่องพายุ สภาพอากาศ และภัยธรรมชาติที่ส่งผลต่อคนไทยทุกคน