ศึก UCL ลิเวอร์พูลเฉือนหวิวแอต.มาดริดสุดระทึก
ค่ำคืนแห่งฟุตบอลยุโรปกลายเป็นไฟลุก เมื่อ ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ แอตเลติโก มาดริด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบลีกเฟส นัดแรก เกมนี้แฟนบอลได้ชมดราม่าเต็มรูปแบบ หงส์แดงออกสตาร์ตได้อย่างร้อนแรงยิงนำ 2-0 ตั้งแต่เพียงหกนาทีแรก แต่ตราหมีกลับสู้สุดใจตีเสมอ 2-2 ในช่วงสิบ นาทีสุดท้าย ก่อนที่เสียงเฮจะดังสนั่นจากลูกโขกเด็ดขาดของ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ในช่วงทดเวลา ทำให้ลิเวอร์พูลเฉือนชนะไปแบบหืดจับ 3-2
ความวุ่นวายระอุข้างสนาม
แม้เกมในสนามจะดราม่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนอกสนามกลับร้อนแรงยิ่งกว่า หลังลิเวอร์พูลได้ประตูชัย แฟนบอลเจ้าถิ่นมีปากเสียงกับทีมงานของแอต.มาดริด และมีรายงานว่าสตาฟฟ์ทีมตราหมีถึงขั้น ถ่มน้ำลายใส่กองเชียร์หงส์แดง เหตุการณ์บานปลายจน ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือพันธุ์ดุของแอตเลติโกเข้าไปผสมโรง เกิดการปะทะคารมกับแฟนบอลจนผู้ตัดสินต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ สุดท้ายซิเมโอเน่ถูกแจกใบแดงไล่ออกจากข้างสนามในช่วงทดเจ็บ
ยูฟ่าจ่อสอบสวนหนัก
ความวุ่นวายดังกล่าวไม่รอดพ้นสายตาของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ล่าสุด ยูฟ่า เตรียมเปิดการสอบสวนพฤติกรรมไม่เหมาะสมของทีมงานแอต.มาดริด โดยเฉพาะกรณีการถ่มน้ำลายใส่แฟนบอลลิเวอร์พูล ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎด้านวินัยขั้นรุนแรง หากพบว่ามีความผิดจริง ทีมตราหมีอาจเผชิญโทษทั้งปรับเงินหรือแม้กระทั่งแบนเจ้าหน้าที่ทีมจากการแข่งขันในอนาคต
ซิเมโอเน่ไม่พอใจกับการตัดสิน
หลังจบเกม ซิเมโอเน่ ให้สัมภาษณ์ด้วยอารมณ์เดือดถึงเหตุการณ์นี้ว่า
“เราอยู่ในสถานที่ที่เราไม่มีสิทธิ์แสดงปฏิกริยาตอบโต้เลยใช่มั้ย? มันไม่ดีเลยใช่มั้ยที่ผู้จัดการทีมโต้ตอบ?”
พร้อมเสริมอีกว่า “เราจำเป็นต้องประพฤติตัวให้ดีที่นี่ แต่เราสามารถโมโหและตอบโต้กลับได้เช่นกัน เราถูกเย้ยหยันตลอดทั้งเกม”
แอต.มาดริดอาจเจอโทษซ้ำเติม
เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของแอตเลติโก มาดริด แต่ยังอาจส่งผลกระทบต่อผลงานในเวทียุโรป หากยูฟ่าตัดสินลงโทษตามข้อกล่าวหา ทีมตราหมีอาจต้องสูญเสียสตาฟฟ์สำคัญ ขณะเดียวกันการถูกเพ่งเล็งเรื่องพฤติกรรมก็อาจทำให้พวกเขาถูกจับตามองเข้มงวดมากขึ้นในทุกเกมที่เหลือ
เกมที่ถูกพูดถึงข้ามคืน
ศึกนี้ไม่ใช่แค่การต่อสู้ในสนาม แต่ยังกลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลโลก แฟนบอลทั้งสองฝั่งต่างวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโซเชียลเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่เหมาะสมของทีมงานตราหมี และการตอบสนองดุดันของซิเมโอเน่ เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าเกมลูกหนังไม่ได้มีแต่ความมันในสนาม แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความกดดัน และการปะทะที่ล้นทะลักทุกขอบสนาม
สิ่งที่แฟนบอลต้องติดตาม
คงต้องจับตาว่ายูฟ่าจะตัดสินอย่างไรต่อเหตุการณ์นี้ และจะส่งผลต่อเส้นทางของแอตเลติโกในเวทียุโรปแค่ไหน ส่วนลิเวอร์พูล แม้คว้าชัยไปได้ แต่เกมนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขายังต้องปรับปรุงเกมรับไม่ให้พลาดง่ายเหมือนช่วงที่เสียสองประตูรวดในครึ่งหลัง เรื่องราวเดือด ๆ แบบนี้ยังคงเกิดขึ้นได้เสมอในเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก และนี่คือเสน่ห์ที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกหลงใหลไม่เสื่อมคลาย
แฟนบอลเฝ้ารอผลสอบ
แฟนบอลทุกสายตาต่างรอคอยบทสรุปจากยูฟ่า ว่าจะลงดาบแอต.มาดริดอย่างไร และผลลัพธ์จะสั่นสะเทือนเวทียุโรปมากน้อยแค่ไหน สามารถติดตามความเคลื่อนไหวเข้มข้นทุกมุมได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
