มาเธียส ฮอกโม ชะตาขาด! โดนปลดสองปีติด หลังล้มเหลวทั้ง อุราวะ–โมลด์

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ฝันร้ายสองปีซ้อนของกุนซือชาวนอร์เวย์

วงการลูกหนังนอร์เวย์สะเทือนอีกครั้ง เมื่อ มาเธียส ฮอกโม กุนซือวัย 65 ปี ผู้มากประสบการณ์ ต้องเจอกับโชคชะตาซ้ำรอย ถูกปลดออกจากตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนถึงสองฤดูกาลติด เริ่มตั้งแต่ปี 2024 ที่ไม่ประสบความสำเร็จกับ อุราวะ เรดส์ ในศึกเจลีก ก่อนที่ล่าสุดปี 2025 จะถูกต้นสังกัดใหม่อย่าง โมลด์ ในลีกสูงสุดนอร์เวย์ สั่งปลดกลางคันแบบไม่เหลือเยื่อใย

สาเหตุที่โมลด์ตัดสินใจเด็ดขาด

ผลงานที่น่าผิดหวังเป็นชนวนหลักที่ทำให้บอร์ดบริหารโมลด์ต้องลงดาบอย่างรวดเร็ว แม้เพิ่งผ่านการคุมทีมเพียง 21 นัด แต่ผลงานกลับไม่น่าประทับใจเมื่อทีมร่วงไปอยู่อันดับ 11 จากทั้งหมด 16 ทีมบนตารางคะแนน ส่งผลให้โอกาสลุ้นพื้นที่ยุโรปแทบดับสนิท บอร์ดจึงเลือกยุติการทำงานกับ ฮอกโม ทันทีเพื่อหาคนใหม่มากอบกู้สถานการณ์

ผลงาน 2 ฤดูกาลหลังสุด

เมื่อเจาะลึกไปที่ตัวเลขผลงาน ฮอกโม ไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้เลย ไม่ว่าจะเป็นในญี่ปุ่นหรือบ้านเกิดของเขา

  • 2025 โมลด์ (นอร์เวย์): 21 นัด ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 10 | จบอันดับ 11
  • 2024 อุราวะ เรดส์ (ญี่ปุ่น): 26 นัด ชนะ 9 เสมอ 8 แพ้ 9 | จบอันดับ 13

สถิติเหล่านี้สะท้อนชัดว่าผลงานอยู่ในระดับ “กลางตาราง” เท่านั้น และไม่เพียงพอสำหรับทีมใหญ่ที่ตั้งเป้าหมายสูงกว่านั้น ทำให้เขากลายเป็นกุนซือที่โดนปลด 2 ปีติด ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ส่งผลกระทบหนักต่อเส้นทางการคุมทีมในอนาคต

บทบาทกับนักเตะไทย

หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจคือช่วงที่ ฮอกโม คุมทัพอุราวะ เรดส์ เขาเคยทำงานร่วมกับ เอกนิษฐ์ ปัญญา ปีกทีมชาติไทย โดยเปิดโอกาสให้แข้งไทยลงสนาม 9 นัด (ตัวจริง 1 นัด สำรอง 8 นัด) แม้จะไม่ได้เป็นแกนหลัก แต่ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์สำคัญที่นักเตะไทยได้สัมผัสเวทีเจลีก และได้ร่วมงานกับโค้ชระดับทวีปยุโรป

บทเรียนจากเส้นทางของฮอกโม

เส้นทางการคุมทีมของ ฮอกโม ในช่วงสองปีที่ผ่านมา อาจสะท้อนถึงความยากลำบากของการปรับตัวในลีกต่างประเทศ รวมถึงแรงกดดันมหาศาลที่โค้ชต้องเผชิญ โดยเฉพาะทีมที่มีฐานแฟนบอลใหญ่และความคาดหวังสูง ความล้มเหลวติดต่อกันเช่นนี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า แม้จะมีประสบการณ์มาก แต่การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและสไตล์ฟุตบอลที่แตกต่างกันยังคงเป็นหัวใจสำคัญ

มุมมองเชิงอนาคต

ในวัย 65 ปี แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว แต่คำถามใหญ่คือ ฮอกโม จะยังคงได้รับโอกาสในเส้นทางการเป็นโค้ชต่อไปหรือไม่ หรืออาจถึงเวลาเข้าสู่บทบาทอื่น เช่น ที่ปรึกษา หรือผู้กำหนดทิศทางฟุตบอลในเบื้องหลัง เพราะการถูกปลดสองปีติดย่อมทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง แต่ชื่อชั้นและประสบการณ์ก็ยังคงเป็นสิ่งที่หลายสโมสรให้ความสนใจ

บทสรุป

เรื่องราวของ มาเธียส ฮอกโม คือเครื่องเตือนใจในโลกฟุตบอลที่ไม่เคยปรานี แม้คุณจะเป็นโค้ชมากประสบการณ์ แต่หากไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังได้ สุดท้ายเก้าอี้ก็พร้อมสั่นคลอนได้ตลอดเวลา คอบอลทั่วโลกจับตาดูว่าเส้นทางต่อไปของเขาจะเป็นเช่นไร และยังคงน่าติดตามไม่แพ้เกมการแข่งขันในสนามจริง

แฟนบอลสามารถติดตามทุกข่าวสารเดือดๆ ของโลกฟุตบอลได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา