
ศึกฮ่องกง โอเพ่น 2025 ระอุ แบดมินตันไทยฟอร์มแตกต่าง
การแข่งขันแบดมินตัน ฮ่องกง โอเพ่น 2025 เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ที่เกาลูน เขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน 2568 จัดเต็มความมันส์กับเงินรางวัลรวมมหาศาลกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 16 ล้านบาท โดยผลงานนักแบดมินตันไทยมีทั้งข่าวดีและความน่าเสียดายที่ทำเอาแฟนกีฬาต้องลุ้นกันสุดหัวใจ
ในประเภทหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ ยังคงแสดงให้เห็นถึงคลาสของมือวางระดับโลก เมื่อเอาชนะคู่แข่งจากไต้หวัน 2 เกมรวด ตบทะลุรอบ 8 คนสุดท้ายอย่างสง่างาม ขณะที่ “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ แม้จะต่อสู้ได้อย่างดุดัน แต่สุดท้ายต้องพ่ายแพ้อย่างน่าเสียดาย ส่วนประเภทชายคู่และคู่ผสมก็ยังเจอศึกหนักจนไม่สามารถผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
เมย์ รัชนก คุมเกมเหนือชั้น ตบทะลุรอบ 8 คน
ในรอบสองหญิงเดี่ยว “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือวางอันดับ 5 ของรายการ และมืออันดับ 10 ของโลก ต้องดวลกับ ชิว ปินเชียน มืออันดับ 23 ของโลกจากไชนีส ไทเป ซึ่งถือว่าไม่ใช่งานง่าย
เกมแรก เมย์ รัชนก ใช้ประสบการณ์และความนิ่งคุมเกมตั้งแต่ต้น สลับการโจมตีและการตั้งรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถรักษาระยะห่างของคะแนนก่อนปิดเกมไปที่ 21-15 อย่างเด็ดขาด
เกมที่สอง ชิว ปินเชียน เริ่มปรับเกมรุกมากขึ้นและพยายามกดดันเมย์ในหลายจังหวะ แต่ความแน่นอนและความเยือกเย็นของรัชนกทำให้เธอสามารถเอาตัวรอดจากช่วงคับขันได้ ก่อนจะปิดแมตช์ด้วยชัยชนะ 21-16 ส่งให้ “เมย์” เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปพบกับ หาน เยี่ย มือวางอันดับ 2 ของรายการ และมืออันดับ 3 ของโลกจากจีน ซึ่งจะเป็นบททดสอบที่หนักหน่วงในรอบถัดไป
หมิว พรปวีณ์ พลาดท่าแมตช์ระทึก
อีกหนึ่งความหวังของไทย “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือวางอันดับ 3 ของรายการ และมืออันดับ 6 ของโลก ต้องเจอกับ มิเชล ลี มืออันดับ 16 ของโลกจากแคนาดา แมตช์นี้เต็มไปด้วยความสูสีตลอดทั้งเกม
หมิวพ่ายไปก่อนในเกมแรก 12-21 แต่เธอไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ กลับมาสู้เต็มที่และพลิกเอาชนะในเกมสองด้วยสกอร์ 21-19 ทำให้ต้องไปตัดสินกันในเกมสาม เกมสุดท้ายเป็นการดวลกันอย่างเข้มข้น ทั้งสองฝ่ายผลัดกันทำแต้มแบบหายใจรดต้นคอ แต่หมิวกลับพลาดท่าเล็กน้อยในช่วงแต้มสำคัญ ทำให้พ่ายไปอย่างน่าเสียดาย 21-23 ส่งผลให้หยุดเส้นทางไว้เพียงรอบสองเท่านั้น
ชายคู่ไทยต้านไม่อยู่ อินเดียฟอร์มแกร่ง
ในประเภทชายคู่ รอบสอง “พี” พีรัชชัย สุขพันธ์ จับคู่กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล มืออันดับ 42 ของโลก ต้องเผชิญหน้ากับคู่มือเก๋าจากอินเดียอย่าง ซาวิทไซราท แรงกิ เรดดี้ และ ชีราท เชตตี้ มือวางอันดับ 8 ของรายการ และมืออันดับ 9 ของโลก
แม้คู่ไทยจะเปิดเกมได้อย่างร้อนแรงในเกมแรก และคว้าชัยไปก่อนที่ 21-18 แต่คู่แข่งจากอินเดียไม่ยอมง่าย ๆ ปรับแผนการเล่นและใช้ความแข็งแกร่งบวกความแม่นยำกดดันจนคู่ไทยผิดพลาดบ่อยครั้ง สุดท้ายแพ้ไป 1-2 เกม (21-18, 15-21, 11-21) ชวดโอกาสเข้ารอบต่อไปอย่างน่าเสียดาย
คู่ผสม “บาส-เฟม” ต้านไม่ไหว อินโดฯ ปิดเกมเด็ดขาด
ประเภทคู่ผสม รอบสอง “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ จับคู่กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน มือวางอันดับ 3 ของรายการ และมืออันดับ 3 ของโลก ต้องเจอกับคู่จากอินโดนีเซีย อัตนัน มัลลาน่า และ อินดา คาย่า ซารี่ จามิล มืออันดับ 33 ของโลก
แมตช์นี้คู่ไทยพยายามต่อสู้สุดกำลัง เปิดเกมแลกแต้มกันอย่างดุดัน แต่ด้วยความเฉียบขาดของคู่แข่งทำให้ “บาส-เฟม” พ่ายไป 1-2 เกม (17-21, 21-18, 13-21) ตกรอบอย่างเจ็บปวด และถือเป็นการบ้านใหญ่ที่ต้องกลับไปแก้ไขเพื่อคืนฟอร์มให้เร็วที่สุด
แบดมินตันไทยกับบทพิสูจน์บนเวทีโลก
ผลงานในรายการนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของนักแบดมินตันไทยที่ยังสามารถต่อกรกับคู่แข่งระดับโลกได้ แม้บางคู่จะต้องพ่ายแพ้ แต่ก็เป็นประสบการณ์ล้ำค่าที่ช่วยพัฒนานักกีฬาไทยให้ก้าวไปข้างหน้าเสมอ โดยเฉพาะ “เมย์ รัชนก” ที่ยังคงเป็นเสาหลักของวงการ พร้อมนำชื่อเสียงกลับมาสู่แฟนกีฬาชาวไทยทุกครั้งที่ลงสนาม
แบดมินตันเป็นหนึ่งในกีฬาที่แฟน ๆ ชาวไทยติดตามอย่างเหนียวแน่น และทุกแมตช์ของนักกีฬาไทยไม่ว่าจะเป็นชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ ล้วนสร้างแรงบันดาลใจและความภาคภูมิใจให้กับประเทศอย่างแท้จริง
ติดตามความมันส์กีฬาได้กับ บ้านกีฬา
การแข่งขันยังไม่จบ และแฟน ๆ ยังมีโอกาสได้เห็นนักกีฬาไทยลุยต่อในรอบลึก ๆ ของรายการนี้ รวมถึงแมตช์อื่น ๆ บนเวทีโลก ติดตามทุกเรื่องราวที่เข้มข้นและมันส์สะใจได้ที่ แบดมินตันสดบ้านกีฬา ที่พร้อมพาคุณไปเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวในโลกกีฬาอย่างไม่พลาดทุกประเด็น