
พิ้งค์ พิชฌามลณ์ ก้าวขึ้นแท่นดาวเด่น
ศึก แบดมินตัน ไชน่า มาสเตอร์ส 2025 กลายเป็นเวทีที่แฟนกีฬาไทยได้เฮลั่น เมื่อ พิ้งค์ พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ โชว์ฟอร์มสุดแข็งแกร่ง ไล่ตบสาวจีนคาบ้านในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว ก่อนจะปิดแมตช์ได้อย่างสวยหรู 2-1 เกม ถือเป็นแชมป์ระดับเวิลด์ทัวร์รายการที่สองในเส้นทางอาชีพของเธอ หลังเคยสร้างชื่อมาแล้วที่มาเลเซีย มาสเตอร์ส 2023
การแข่งขันที่เมืองเป่าจี้ ประเทศจีน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2568 เป็นศึกระดับ ทัวร์ ซูเปอร์ 100 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 110,000 เหรียญสหรัฐ หรือราว 3.57 ล้านบาท ซึ่งทุกสายตาจับจ้องไปที่การดวลในรอบชิง โดยพิ้งค์ มือวางอันดับ 2 ของรายการ มืออันดับ 49 ของโลก ต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลจากเสียงเชียร์เจ้าถิ่น ที่ส่งกำลังใจให้ เจิ้ง ซินหยาน คู่แข่งชาวจีน
เส้นทางสู่แชมป์หญิงเดี่ยว
เกมแรกทั้งคู่เปิดฉากด้วยการแลกแต้มสุดมันส์ สูสีจนเสมอกันที่ 16-16 แต่จากนั้นพิ้งค์เร่งเครื่องทำแต้มต่อเนื่อง 6 คะแนนรวด ปิดเกมไปอย่างเฉียบคมที่ 21-16 ขึ้นนำก่อน 1-0 เกม
เข้าสู่เกมที่สอง เจิ้ง ซินหยาน ปรับแผนบุกเต็มกำลัง กดดันให้พิ้งค์เสียจังหวะจนต้องยอมแพ้ไป 18-21 เสมอกัน 1-1 เกม สถานการณ์เข้มข้นจนคนดูแทบหยุดหายใจ
เกมตัดสินคือบทพิสูจน์หัวใจนักสู้ของพิ้งค์ เธอเดินหน้าโจมตีไม่ยั้ง ปิดทางหายใจคู่แข่งตั้งแต่ต้นเกม ก่อนทิ้งห่างอย่างเหนือชั้นจนจบที่สกอร์ 21-7 คว้าชัยเด็ดขาด 2-1 เกม พร้อมชูถ้วยแชมป์ที่จีนได้อย่างสง่างาม
ชัยชนะครั้งนี้นอกจากสร้างชื่อให้กับเธอแล้ว ยังตอกย้ำถึงศักยภาพนักแบดมินตันไทยที่ก้าวขึ้นมาเขย่าเวทีโลกอีกครั้ง โดยพิ้งค์รับเงินรางวัล 8,250 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 268,125 บาทกลับบ้านไปครอง
ไตเติ้ล-มูนา ควงคู่สร้างประวัติศาสตร์
ไม่เพียงแต่พิ้งค์ที่ทำให้ธงไตรรงค์โบกสะบัดกลางจีน ในประเภท คู่ผสม “ไตเติ้ล” รุษฐนภัค อูปทอง จับคู่กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด แม้จะเป็นการลงเล่นร่วมกันแบบชั่วคราว แต่ฟอร์มที่ออกมากลับเกินคำว่าประทับใจ พวกเขาประสานงานได้อย่างลงตัว ไล่ต้อนคู่มือวางอันดับ 5 ของรายการจากจีนอย่าง จู ยี่จุน และ หลี่ เฉียน แบบไม่เกรงใจเจ้าถิ่น
เกมแรก คู่หูไทยคุมเกมได้ดีกว่าชัดเจน ตบทำแต้มขาดช่วงจนปิดได้ที่ 21-17 ก่อนที่เกมสองยังรักษามาตรฐานไว้ได้และปิดจบด้วยสกอร์ 21-16 ทำให้ชนะ 2 เกมรวด คว้าแชมป์ไปแบบไร้ข้อกังขา พร้อมรับเงินรางวัล 8,690 เหรียญสหรัฐ หรือราว 282,425 บาท
สำหรับไตเติ้ลและมูนา แม้จะไม่ได้เป็นคู่ประจำ แต่การสร้างผลงานระดับนี้ถือว่าเป็นการประกาศศักดาที่แฟนแบดไทยไม่ควรมองข้าม เพราะมีโอกาสสูงที่อนาคตพวกเขาอาจถูกจับตามองให้สานต่อเส้นทางร่วมกัน
ความสำคัญของความสำเร็จครั้งนี้
ชัยชนะครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาของ วงการแบดมินตันไทย ที่ไม่หยุดอยู่กับที่ การที่นักกีฬาไทยทั้งเดี่ยวและคู่ผสมสามารถไปยืนบนโพเดียมแชมป์รายการนานาชาติได้ เป็นหลักฐานชัดเจนว่าไทยยังคงมีศักยภาพสู้กับมหาอำนาจลูกขนไก่อย่างจีนได้อย่างไม่เกรงกลัว นอกจากนี้ยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักกีฬารุ่นใหม่กล้าที่จะฝันและเดินตามรอยรุ่นพี่สู่ความสำเร็จบนเวทีโลก
มุมมองต่อแฟนกีฬาไทย
ชัยชนะของพิ้งค์และคู่ไตเติ้ล-มูนา ไม่ได้เป็นเพียงสถิติในสนามแข่งขัน แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยหันมาใส่ใจในกีฬาแบดมินตันมากขึ้น การฝึกซ้อมที่ต่อเนื่อง ความมุ่งมั่น และการสนับสนุนที่แข็งแกร่งจากทุกภาคส่วน คือสิ่งที่จะช่วยผลักดันให้ไทยยังคงเป็นหนึ่งในชาติที่สร้างนักกีฬาคุณภาพออกสู่เวทีโลกต่อเนื่อง
สำหรับแฟนกีฬาไทย การได้เห็นนักกีฬาไทยยืนบนโพเดียมในจีนถือเป็นภาพประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจ และยังเป็นการตอกย้ำว่าอนาคตแบดมินตันไทยยังสดใสและมีลุ้นสร้างผลงานยิ่งใหญ่ในรายการระดับสูงกว่าอย่าง BWF World Tour Super 500 หรือ 1000 ในวันข้างหน้า
แฟนกีฬาอย่าพลาดการติดตาม
ผลงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มเหรียญแชมป์ให้ทีมชาติไทย แต่ยังเป็นสัญญาณว่าความสำเร็จครั้งต่อไปกำลังรออยู่ข้างหน้า แฟนแบดไทยและแฟนกีฬาโดยรวมไม่ควรพลาดที่จะติดตามก้าวต่อไปของทั้งพิ้งค์ และคู่หูไตเติ้ล-มูนา ที่อาจกลายเป็นกำลังหลักของทีมไทยในศึกใหญ่ระดับโลก ติดตามทุกความเคลื่อนไหวและข่าวสารวงการกีฬาได้ที่ แบดมินตันสดบ้านกีฬา