
แดน เบิร์น ปราการหลังจอมแกร่งของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังปัญหาย้ายทีมของ อเล็กซานเดอร์ อีซัค ได้ข้อสรุปในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขาย โดยแข้งทีมชาติสวีเดนย้ายซบ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวมหาศาล 125 ล้านปอนด์ (ราว 5,500 ล้านบาท) ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในดีลประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
จุดแตกหักระหว่างอีซัคกับนิวคาสเซิ่ล
ก่อนปิดตลาดไม่กี่ชั่วโมง ความตึงเครียดระหว่างอีซัคกับนิวคาสเซิ่ลระเบิดเต็มรูปแบบ เมื่อแข้งวัย 25 ปีแสดงความชัดเจนว่าต้องการย้ายไปเล่นให้ “หงส์แดง” ท่ามกลางการพยายามรั้งตัวจากบอร์ดบริหาร “สาลิกาดง” แต่สุดท้ายทั้งสองสโมสรก็ตกลงกันได้ที่ตัวเลขมหาศาล ซึ่งถือเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดในรอบตลาดซัมเมอร์นี้ของอังกฤษ
เบิร์นเปิดใจหลังดราม่าปิดฉาก
เบิร์นซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมเก่าของอีซัคในถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ก ยอมรับว่า เรื่องนี้ทำให้บรรยากาศในทีมหนักอึ้ง แต่เมื่อทุกอย่างจบลงก็ช่วยให้ทุกฝ่ายได้เดินหน้าต่อ “ผมดีใจที่เรื่องนี้เสร็จสิ้นซะที เราอยากให้ตลาดนักเตะปิดตัว เพื่อจะได้มีความชัดเจนในเรื่องนี้สักที”
เจ้าตัวยังเสริมว่า อาชีพนักเตะนั้นสั้น และเข้าใจดีว่าทำไมอีซัคถึงเลือกเส้นทางใหม่ แม้ส่วนตัวอยากให้เพื่อนอยู่ต่อ แต่ก็พร้อมส่งกำลังใจให้ “ผมไม่มีปัญหา และอวยพรให้ อีซัค โชคดีกับทุกๆ สิ่ง”
เสียงสะท้อนจากแฟนบอลสาลิกาดง
ความผิดหวังของกองเชียร์นิวคาสเซิ่ลเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจได้ดี แฟนบอลที่ภักดีต่อสโมสรย่อมไม่อยากเห็นนักเตะสำคัญเลือกย้ายออก เบิร์นเผยว่า “ไม่มีความเป็นศัตรูหรือบาดหมางใดๆ ทั้งสิ้นกับเขา คุณก็รู้ว่าแฟนบอลนิวคาสเซิ่ลเป็นยังไง เราปกป้องสโมสรและเมืองของเราอย่างเต็มที่ เราต้องการนักเตะที่อยากเล่นให้ นิวคาสเซิ่ล จริงๆ คุณไม่อยากให้พวกเขาคิดว่ามีที่อื่นที่ดีกว่า นิวคาสเซิ่ล”
แผนเสริมทัพของนิวคาสเซิ่ล
แม้จะเสียกองหน้าตัวเก่ง แต่เงินก้อนมหาศาลจากการขายอีซัคถูกนำไปลงทุนทันที โดย “สาลิกาดง” คว้าตัว นิค โวลเทอมาเดอ และ โยอัน วิสซ่า เข้ามาเป็นตัวเลือกในแนวรุก หวังเติมดีกรีเกมรุกให้เฉียบคมและรักษาสมดุลทีมในฤดูกาลที่กำลังเข้มข้น
ภารกิจใหม่ของเบิร์นในทีมชาติอังกฤษ
ในวัย 33 ปี เบิร์นยังคงเป็นส่วนสำคัญทั้งในสโมสรและทีมชาติ โดยเจ้าตัวกำลังเตรียมลงสนามช่วย ทีมชาติอังกฤษ พบกับ อันดอร์รา ในเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป วันเสาร์ที่ 6 กันยายนนี้ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบของปราการหลังผู้มากประสบการณ์
อีซัคกับเส้นทางใหม่ในถิ่นแอนฟิลด์
สำหรับแฟนบอลทั่วโลก การย้ายทีมของอีซัคไม่เพียงแค่สร้างความสั่นสะเทือนในตลาดนักเตะ แต่ยังเพิ่มสีสันให้พรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะเมื่อเขาได้ลงล่าตาข่ายร่วมกับเหล่าซูเปอร์สตาร์ในรั้วแอนฟิลด์ การปรับตัวของเขาจะเป็นสิ่งที่ต้องจับตา เพราะหากสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างต่อเนื่อง อีซัคมีโอกาสกลายเป็นกำลังหลักของลิเวอร์พูลในทันที
เรื่องราวที่สอนใจแฟนบอล
ดีลนี้สะท้อนความจริงของโลกฟุตบอลยุคใหม่ ที่เงินทุนและความฝันของนักเตะมีบทบาทไม่แพ้กัน สำหรับแฟนบอลแล้ว การย้ายทีมอาจทำให้รู้สึกผิดหวัง แต่ก็ช่วยเปิดประตูสู่ความท้าทายใหม่ของทั้งนักเตะและสโมสร และนี่คือเสน่ห์ของเกมลูกหนังที่ไม่มีใครคาดเดาได้
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของตลาดนักเตะ และข่าวฟุตบอลสุดเข้มข้นได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา