
Wednesday Addams สาวน้อยมาดดาร์กจากตระกูล Addams กลับมาปลุกกระแสความหลอนอีกครั้งใน Wednesday Season 2 บน Netflix ซีรีส์ที่เปิดตัวสุดปังตั้งแต่ปี 2022 ด้วยยอดวิวทะลุ 252 ล้านครั้ง และมียอดรับชมกว่า 1.7 พันล้านชั่วโมงทั่วโลก กลายเป็นซีรีส์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดแห่งยุค แต่ในขณะที่ผู้ชมต่างหลงรักตัวละคร เสื้อผ้า งานภาพ และบรรยากาศอันโดดเด่น ก็มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับ “ความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์” ในซีซั่นแรกที่ทำให้หลายคนแอบเสียดาย และหวังว่าในซีซั่น 2 จะกลับมาแบบคมกริบกว่าเดิม
ซีซั่นแรกสร้างกระแส แต่พลาดตรงประวัติศาสตร์
หนึ่งในประเด็นที่ถูกหยิบยกมากที่สุดคือการเล่าเรื่องย้อนยุคของบรรพบุรุษตระกูล Addams ที่ชื่อ Goody Addams ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด โดยในซีรีส์อ้างอิงถึงช่วงต้นทศวรรษ 1600s และมีตัวละคร Joseph Crackstone ผู้เคร่งศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง บรรยากาศชวนให้นึกถึงการตั้งถิ่นฐานแรกของอาณานิคมอเมริกา แต่ความจริงแล้ว การล่าแม่มดในซาเล็ม ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเกิดขึ้นช้ากว่านั้นหลายสิบปี คือช่วงปี 1692–1693 ความคลาดเคลื่อนนี้ทำให้แฟนประวัติศาสตร์รู้สึก “สะดุด” เพราะบริบทไม่สอดคล้อง
ความจริงอันโหดร้าย: ผู้หญิงธรรมดาถูกตราหน้า
ในซีรีส์ ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดกลับมีพลังเหนือธรรมชาติจริง ๆ แต่ในประวัติศาสตร์ กลับตรงกันข้ามทั้งหมด ระหว่างศตวรรษที่ 15–18 ทั่วทั้งยุโรปและอเมริกาเหนือ เหยื่อกว่า 80% ของการล่าแม่มดเป็นผู้หญิงธรรมดา ส่วนใหญ่เป็นแม่หม้าย หมอพื้นบ้าน หรือคนที่ถูกสังคมกีดกันออกไป ความจริงที่เจ็บปวดคือพวกเธอไม่มีเวทมนตร์เลย แต่ถูกกล่าวหาเพราะความกลัว ความเชื่อทางศาสนา และความไม่เข้าใจ นี่คือความโหดร้ายที่ซีรีส์เลือกไม่สะท้อนอย่างเต็มที่ จนหลายคนมองว่าเป็นการ “พลาดโอกาส” ที่จะเล่าประวัติศาสตร์อันเจ็บปวดให้ตรงประเด็น
วิธีประหารในซีรีส์ที่ไม่ตรงกับความจริง
อีกหนึ่งข้อผิดพลาดคือการนำเสนอฉากประหารชีวิตด้วยการ เผาแม่มดทั้งเป็น แม้จะดูน่าตื่นตาและเพิ่มดราม่า แต่ในประวัติศาสตร์อเมริกา โดยเฉพาะคดีซาเล็ม ไม่มีการใช้วิธีเผาเลยสักครั้ง เหยื่อ 19 คนถูกแขวนคอ 1 คนถูกกดด้วยหินจนเสียชีวิต อีกหลายคนเสียชีวิตในคุก แต่ไม่มีการเผาแม่มดในแผ่นดินอเมริกาเลย การเลือกใช้วิธีนี้ในซีรีส์จึงเป็นการ “เติมสี” มากกว่าความถูกต้อง
Wednesday Season 2 จะไปต่ออย่างไร
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Wednesday Season 1 สร้างบรรยากาศได้ชวนติดตาม และทำให้ตัวละคร Wednesday Addams กลายเป็นไอคอนใหม่ของคนรุ่นนี้ การกลับมาใน Season 2 จึงถูกจับตามองว่าจะสามารถ “ผสมผสานความบันเทิงกับความจริงทางประวัติศาสตร์” ได้ลงตัวหรือไม่ เพราะเมื่อเรื่องราวแตะประเด็นอ่อนไหวอย่างการล่าแม่มด ความแม่นยำก็สำคัญไม่แพ้การสร้างความหลอน
โดยในซีซั่นใหม่นี้ Netflix แบ่งการฉายออกเป็นสองพาร์ต พาร์ตแรกเปิดให้ชมแล้วตั้งแต่ 6 สิงหาคม และพาร์ตสองจะตามมาติด ๆ ในวันที่ 3 กันยายน แฟน ๆ จึงไม่ต้องรอนาน สามารถต่อเนื่องความอินกับโลกมืดมนของ Wednesday ได้เต็มอิ่ม
Wednesday ซีรีส์ที่กลายเป็นบทเรียน
ปรากฏการณ์ของ Wednesday ไม่ใช่แค่ความสำเร็จเชิงตัวเลข แต่ยังสะท้อนว่าเมื่อซีรีส์เลือกหยิบเรื่องราวประวัติศาสตร์มาอ้างอิง การนำเสนออย่างมีความรับผิดชอบก็สำคัญไม่แพ้ความสร้างสรรค์ Wednesday Season 2 จึงถูกคาดหวังว่าจะเป็นการแก้มือครั้งใหญ่ เพื่อให้ทั้งแฟนบันเทิงและแฟนประวัติศาสตร์พึงพอใจไปพร้อมกัน
บทสรุป
Wednesday Season 2 ไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องราวต่อจากซีซั่นแรก แต่คือบทพิสูจน์ว่าซีรีส์จะก้าวข้ามข้อผิดพลาด และสร้างมาตรฐานใหม่ที่ทั้งสนุก หลอน และเคารพข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ได้หรือไม่ เพราะสำหรับผู้ชมทั่วโลก Wednesday ไม่ได้เป็นเพียงตัวละคร แต่มันคือปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สั่นสะเทือนวงการซีรีส์ Netflix อย่างแท้จริง
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา