
ข่าวใหญ่ที่พี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวรอคอยมาถึงแล้ว เมื่อโครงการ เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ได้เริ่มโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 เป็นต้นไป ผ่าน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย และเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศในช่วงฤดูกาลผลิตนี้
เกษตรกรรับเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันผ่านโพสต์ว่าเกษตรกรกว่า 769,461 ราย ได้รับการโอนเงินก้อนแรกแล้ว คิดเป็นวงเงินกว่า 6,280 ล้านบาท โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวนาปรังปี 2568 และยังมีรอบการโอนสำหรับเกษตรกรภาคต่าง ๆ ต่อเนื่อง
ตารางกำหนดการโอนเงินไร่ละ 1,000 บาท
- 1 กันยายน 2568 : โครงการนาปรัง ปี 2568 เกษตรกร 769,461 ราย วงเงิน 6,280 ล้านบาท (ทั่วประเทศ)
- 2 กันยายน 2568 : โครงการนาปี 2568 เกษตรกร 286,831 ราย วงเงิน 2,459 ล้านบาท (ภาคเหนือ)
- 3 กันยายน 2568 : โครงการนาปี 2568 เกษตรกร 1,291,298 ราย วงเงิน 10,586 ล้านบาท (ภาคอีสาน)
- 4 กันยายน 2568 : โครงการนาปี 2568 เกษตรกร 137,478 ราย วงเงิน 1,254 ล้านบาท (ภาคอื่น ๆ)
รวมแล้วจะมีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวกว่า 2,485,068 ราย ได้รับเงินช่วยเหลือ วงเงินรวมมากกว่า 20,580 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการกระจายงบประมาณครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของรัฐบาลเพื่อเกษตรกร
เงื่อนไขและสิทธิ์การได้รับเงิน
ชาวนาที่มีสิทธิ์ต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับ กรมส่งเสริมการเกษตร และเข้าเงื่อนไขของโครงการ โดยรัฐบาลกำหนดให้จ่ายเงิน ไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 10 ไร่ หรือสูงสุด 10,000 บาท
- โครงการนาปรัง ปี 2568 : ระหว่าง 1 ก.ย. 2568 – 31 ธ.ค. 2568
- โครงการนาปี ปี 2568/69 : ระหว่าง 1 ก.ย. 2568 – 30 ก.ย. 2569
ช่องทางตรวจสอบเงินเข้า
เกษตรกรสามารถตรวจสอบการโอนเงินได้หลายวิธี สะดวกและรวดเร็ว ได้แก่
- เว็บไซต์ govtransfer.baac.or.th เพียงกรอกเลขบัตรประชาชน 13 หลัก
- แอปพลิเคชัน BAAC Mobile ของ ธ.ก.ส.
- LINE Official BAAC Family สำหรับผู้ที่สมัคร BAAC Connect เพื่อรับการแจ้งเตือนเงินเข้า-ออกบัญชี
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบสิทธิ์เกษตรกรผ่านเว็บไซต์ efarmer.doae.go.th โดยใส่เลขบัตรประชาชน และรหัสหลังบัตร ระบบจะแสดงสถานะว่ามีสิทธิ์หรือไม่ รวมถึงติดตามความคืบหน้าที่ chongkho.inbaac.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เป้าหมายของโครงการนี้
รัฐบาลตั้งใจช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในภาคเกษตร และกระตุ้นให้เกษตรกรสามารถปลูกข้าวได้อย่างต่อเนื่อง โดยเงินที่ได้รับสามารถนำไปใช้ซื้อเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยา และดูแลการเพาะปลูก ช่วยเสริมความมั่นคงด้านอาหารให้กับประเทศอีกทางหนึ่ง
ความสำคัญเชิงโครงสร้าง
โครงการเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่ใช่เพียงแค่มาตรการบรรเทาเฉพาะหน้า แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของ ชาวนาไทย ในฐานะผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ข้าวไม่เพียงเป็นอาหารหลักของคนไทย แต่ยังเป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ การดูแลเกษตรกรจึงถือเป็นการลงทุนในความมั่นคงระยะยาว
สรุป
การโอนเงินช่วยเหลือครั้งนี้ เป็นสัญญาณชัดเจนว่ารัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับเกษตรกรฐานราก การโอนตรงเข้าบัญชีช่วยให้ชาวนาได้รับสิทธิ์อย่างโปร่งใส รวดเร็ว และตรวจสอบได้ การติดตามสถานะผ่านช่องทางออนไลน์ก็ช่วยลดปัญหาความไม่ชัดเจน บ้านกีฬา มองว่ามาตรการนี้จะช่วยเพิ่มพลังใจให้พี่น้องชาวนาได้เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ได้ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา