
ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความกดดันและความดุเดือดของศึก ลา ลีกา สเปน กลายเป็นบททดสอบแรกของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ในสีเสื้อ บาร์เซโลน่า แต่ไม่เป็นไปอย่างที่แฟนบอลคาด เมื่อกุนซือ ฮันซี่ ฟลิค ตัดสินใจถอดดาวยิงทีมชาติอังกฤษออกตั้งแต่จบครึ่งแรก ก่อนที่ทัพเจ้าบุญทุ่มจะสร้างปาฏิหาริย์พลิกชนะ เลบันเต้ 3-2
แรชฟอร์ดประเดิมไม่สวยกับบาร์ซ่า
แรชฟอร์ด ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาสู่คัมป์นูด้วยสัญญายืมตัวพ่วงออปชันซื้อขาด 30 ล้านปอนด์ ซึ่งแฟนบอลต่างจับตาว่าเขาจะตอบแทนความคาดหวังได้หรือไม่ เกมนี้ ฟลิคให้โอกาสออกสตาร์ทตัวจริงครั้งแรกในลีก โดยยืนทางกราบซ้ายร่วมแนวรุกกับ ราฟินญ่า, เฟร์ราน ตอร์เรส และ ลามีน ยามาล
แม้เจ้าตัวจะมีโอกาสทองจากการยิงหลุดในช่วงต้นเกม แต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ และตลอดครึ่งแรก บาร์ซ่ากลับต้องเจอกับฝันร้ายเมื่อโดนทีมน้องใหม่อย่างเลบันเต้ขึ้นนำ 2-0 จากประตูของ อีบัน โรเมโร และจุดโทษของ โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส
ฟลิคแก้เกมเด็ดขาด
ทันทีที่หมดครึ่งแรก ฟลิคตัดสินใจครั้งใหญ่ด้วยการถอด แรชฟอร์ด ออกพร้อมกับ มาร์ก กาซาโด้ และส่งสองตัวเก๋าอย่าง ดานี่ โอลโม่ กับ กาบี ลงมาแทน จุดเปลี่ยนนี้พลิกเกมทันตาเห็น เพราะเพียง 7 นาทีหลังจากนั้น บาร์ซ่าไล่ตีเสมอได้จาก เปดรี้ และ เฟร์ราน ตอร์เรส ก่อนที่ช่วงทดเจ็บความดราม่าจะระเบิดขึ้น เมื่อแนวรับเลบันเต้สกัดบอลจากการเปิดของ ยามาล เข้าประตูตัวเอง ส่งให้บาร์ซ่าคว้าชัยสุดมันส์ 3-2
คำอธิบายจากปากฟลิค
หลังจบเกม ฟลิคเผยถึงการตัดสินใจถอดแรชฟอร์ดว่า
“มาร์คัส มีโอกาสอยู่บ้างในครึ่งแรกและเขาแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้เล่นที่สามารถช่วยเราได้ แต่ครึ่งหลังเราจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไรบางอย่าง เราโยกให้ ราฟินญ่า มาเล่นริมเส้น และมันก็ได้ผลทันที”
แรชฟอร์ดยังมีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง
แม้ยังไม่สามารถปลดล็อกประตูแรกในสีเสื้อบาร์ซ่า แต่ด้วยประสบการณ์และความสามารถ แรชฟอร์ดมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกมาก เขาหวังใช้เวทีลาลีกาเป็นจุดเปลี่ยนเรียกฟอร์มเก่งกลับคืน หลังถูกลดบทบาทที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ภายใต้การทำทีมของ รูเบน อโมริม หากปรับตัวได้เร็วและยกระดับการเล่น เขายังอาจกลายเป็นหนึ่งในอาวุธลับของบาร์ซ่าในฤดูกาลนี้
แรชฟอร์ดกับความท้าทายใหม่ในลาลีกา
สิ่งที่แรชฟอร์ดกำลังเผชิญคือแรงกดดันจากทั้งแฟนบอลและโค้ช เนื่องจากบาร์ซ่ากำลังเข้าสู่ยุคเปลี่ยนผ่านภายใต้การนำของฟลิค การแข่งขันสูงในแนวรุกที่เต็มไปด้วยสตาร์ดังอย่าง ราฟินญ่า, ยามาล และตอร์เรส ทำให้ทุกนาทีในสนามมีความหมาย การถูกถอดออกตั้งแต่ครึ่งแรกอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าต้องยกระดับฟอร์มให้รวดเร็วที่สุด หากหวังยึดตำแหน่งตัวจริงระยะยาว
แฟนบอลยังคงจับตามอง
แม้เกมนี้จะเป็นเหมือนบทเรียนราคาแพง แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ แรชฟอร์ดยังมีเวลาพิสูจน์ว่าเขาคู่ควรกับเสื้อบาร์เซโลน่า ความเร็ว ความแข็งแกร่ง และการจบสกอร์ที่เฉียบคมยังคงเป็นอาวุธ หากเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับสไตล์ฟุตบอลสเปนได้ แฟนบอลอาจได้เห็นเขากลับมาเป็นแรชฟอร์ดคนเดิมที่อันตรายในอนาคตอันใกล้
แฟนบอลที่ไม่อยากพลาดทุกข่าวเด็ดและการวิเคราะห์เกมมันส์ ๆ ติดตามต่อได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา แหล่งรวมข่าวฟุตบอลครบเครื่องสำหรับคอบอลชาวไทย