
ความคึกคักกลับมาอีกครั้งในวงการลูกหนังไทย เมื่อ ทีมชาติไทย U23 ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ได้ประกาศรายชื่อ 26 นักเตะ ที่จะเข้าร่วมศึก คัดเอเชีย 2026 (AFC U-23 Asian Cup Qualification) ซึ่งจะฟาดแข้งระหว่างวันที่ 3-9 กันยายน 2568 โดยการประกาศครั้งนี้มีทั้งแกนหลักจากศึก อาเซียนคัพ และแข้งหน้าใหม่ที่น่าจับตา ไม่ว่าจะเป็น คคนะ คำยก, อิคลาส สันหรน และ ธนกฤต โชติเมืองปัก ที่ถูกดึงเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งในแดนกลาง ก่อนจะมีการตัดตัวเหลือเพียง 23 คนสุดท้าย
รายชื่อผู้เล่นทีมชาติไทย U23 ชุด 26 คน
การเรียกตัวครั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้จัดเต็มทุกตำแหน่ง ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตู กองหลัง กองกลาง ไปจนถึงกองหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมสูงสุด
ผู้รักษาประตู
- ศุภณัฐ สุดาทิพย์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด)
- ณรงศักดิ์ เนื่องวงษา (อยุธยา ยูไนเต็ด)
- ชมพัฒน์ บุญเลิศ (พัทยา ยูไนเต็ด)
- ศรวัสย์ โพธิ์สมัน (สงขลา เอฟซี)
- กษิดิ์เดช รุ่งกิจวัฒนานุกูล (บางกอก เอฟซี)
กองหลัง
- ภัทรพล ศึกษากิจ (สุโขทัย เอฟซี)
- พลเอก มณีกร (พีที ประจวบ เอฟซี)
- วาริส ชูทอง (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
- ชนภัช บัวพันธ์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
- ชานนท์ ทำมา (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด)
- พิชิตชัย เศียรกระโทก (โปลิศ เทโร เอฟซี)
- สพล น้อยวงศ์ (โปลิศ เทโร เอฟซี)
- ธนชัย นาถธนกุล (นครศรี ยูไนเต็ด)
กองกลาง
- สิทธา บุญหล้า (การท่าเรือ เอฟซี)
- ชัยพล อดทน (สุโขทัย เอฟซี)
- เสกสรรค์ ราตรี (ระยอง เอฟซี)
- คคนะ คำยก (เมืองทอง ยูไนเต็ด)
- อิคลาส สันหรน (พีที ประจวบ เอฟซี)
- ธนกฤต โชติเมืองปัก (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
- สงครามสมุทร น้ำผึ้ง (โปลิศ เทโร เอฟซี)
- สิรภพ วันดี (ชลบุรี เอฟซี)
- ชวัลวิทย์ แซ่เล้า (พราม แบงค็อก)
กองหน้า
- เจะฮานาฟี มามะ (พีที ประจวบ เอฟซี)
- อับดุลเราะห์มาน กีรานี เอสซาดี (โปลิศ เทโร เอฟซี)
- ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย (หนองบัว พิชญ เอฟซี)
- ยศกร บูรพา (Hougang United)
แผนการเก็บตัวและโปรแกรมคัดเลือก
นักเตะทั้ง 26 คน จะเดินทางมารายงานตัวที่ ธารา พาร์ค รีโซเทล ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เวลา 14.00 น. ก่อนจะเข้าเก็บตัวฝึกซ้อมที่ ยามาโอกา ฮานาซากะ อคาเดมี 1 จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2568 โดยหลังจากนั้นทีมงานสตาฟฟ์โค้ชจะทำการตัดตัวให้เหลือเพียง 23 ราย เพื่อใช้ทำการแข่งขันจริง
โปรแกรมของทีมชาติไทย U23 ในรอบคัดเลือก กลุ่ม F มีดังนี้
- 3 กันยายน 2568 เวลา 19.30 น. : ทีมชาติไทย U23 พบ มองโกเลีย U23
- 6 กันยายน 2568 เวลา 19.30 น. : เลบานอน U23 พบ ทีมชาติไทย U23
- 9 กันยายน 2568 เวลา 19.30 น. : ทีมชาติไทย U23 พบ มาเลเซีย U23
ระบบการแข่งขันคือ นำแชมป์กลุ่มทั้ง 11 กลุ่ม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีม ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 7-25 มกราคม 2569
แดนกลางอัพเกรด เสริมสมดุลทีม
หนึ่งในประเด็นสำคัญคือการดึงสามแข้งใหม่เข้าสู่แดนกลาง ไม่ว่าจะเป็น คคนะ คำยก ที่โดดเด่นในการเชื่อมเกม, อิคลาส สันหรน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความดุดัน และ ธนกฤต โชติเมืองปัก มิดฟิลด์ดาวรุ่งจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทั้งหมดนี้จะทำให้ทีมชาติไทยมีสมดุลมากขึ้น ทั้งเกมรุกและเกมรับ
ความท้าทายของทีมชาติไทย U23
การอยู่กลุ่มเดียวกับ มาเลเซีย, เลบานอน และ มองโกเลีย ไม่ใช่งานง่าย โดยเฉพาะการเจอกับเสือเหลืองคู่ปรับสำคัญของไทยในทุกระดับอายุ แต่ก็ถือเป็นบททดสอบชั้นยอดที่จะพิสูจน์ศักยภาพของแข้งช้างศึก U23 ว่าพร้อมก้าวขึ้นสู่ระดับเอเชียมากน้อยแค่ไหน
ฟุตบอล U23 กับความสำคัญต่อทีมชาติชุดใหญ่
ฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี นับเป็นบันไดขั้นสำคัญสู่การต่อยอดสู่ทีมชาติชุดใหญ่ ผู้เล่นหลายคนที่ผ่านเวทีนี้ไม่ว่าจะเป็นธีรศิลป์ แดงดา หรือชนาธิป สรงกระสินธ์ ต่างใช้เวที U23 เป็นสนามพิสูจน์ตัวเอง การแข่งขันครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการชิงตั๋วเข้ารอบสุดท้าย แต่ยังเป็นการคัดกรองแข้งเลือดใหม่ที่จะเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในอนาคต
สรุปภาพรวม
การประกาศรายชื่อ 26 แข้งทีมชาติไทย U23 ครั้งนี้ ทำให้แฟนบอลได้เห็นความตั้งใจของโค้ชวังและทีมงานในการสร้างทีมที่สมดุลและแข็งแกร่งมากขึ้น ก่อนที่จะหั่นรายชื่อเหลือ 23 คนเพื่อทำศึกจริงในเดือนกันยายนนี้ ทุกสายตาจึงจับจ้องไปที่การประเดิมสนามกับมองโกเลีย และบทพิสูจน์ครั้งใหญ่กับมาเลเซีย ที่จะชี้ชะตาว่าไทยจะไปต่อในรอบสุดท้ายที่ซาอุดีอาระเบียได้หรือไม่ ติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารวงการลูกหนังไทยได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา