
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ห้องประชุมใหญ่ได้กลายเป็นเวทีสำคัญในการจัดทัพตำรวจครั้งใหญ่แห่งปี ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ซึ่งนั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดกลั่นกรอง เคาะบัญชี 251 ตำแหน่งระดับนายพลตำรวจ ไล่ตั้งแต่ รอง ผบ.ตร. ลงมาจนถึง ผู้บังคับการ (ผบก.) ถือเป็นการขยับเขย่าโครงสร้าง “สีกากี” ครั้งสำคัญ ที่สังคมการเมืองและความมั่นคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด
รายละเอียดโผนายพลปีนี้: 2 รอง ผบ.ตร. – 7 ผู้ช่วย ผบ.ตร. – 16 ผบช. – 40 รองผบช. – 71 ผบก.
โผนายพลตำรวจปี 2568 มีตำแหน่งว่างจำนวนมากถึง 251 เก้าอี้ ได้แก่
- รอง ผบ.ตร. 2 ตำแหน่ง
- ผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง
- ผู้บัญชาการ (ผบช.) 16 ตำแหน่ง
- รอง ผบช. 40 ตำแหน่ง
- ผู้บังคับการ (ผบก.) 71 ตำแหน่ง
ไฮไลต์! เลื่อนสำราญ – อิทธิพล ขึ้นรอง ผบ.ตร.
- พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 1 ขยับขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร.
- พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ อาวุโสลำดับที่ 3 ขึ้นเป็น จเรตำรวจแห่งชาติ
ส่วน พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสลำดับที่ 2 ถูกตัดสิทธิ์จากประเด็นจริยธรรม กรณีการรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ
ผู้ช่วย ผบ.ตร. หน้าใหม่ 7 เก้าอี้
บอร์ดกลั่นกรองจัดเรียงตามอาวุโส ได้แก่
- พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8
- พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.
- พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7
- พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผบช.สง.ก.ตร.
- พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ส.
- พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2
- พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.
เปิดโผ ผบช. สะเทือนทุกกองบัญชาการ
ระดับ ผบช. ว่างถึง 16 เก้าอี้ มีการขยับหลายตำแหน่งที่น่าจับตา เช่น
- พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. ขยับขึ้นเป็น ผบช.ก.
- พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ศ. ขยับขึ้นเป็น ผบช.ตชด.
- พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. ย้ายไปนั่ง ผบช.ปส.
- พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 โยกไปควบ ผบช.สอท.
- พล.ต.ท.สิทธิชัย โล่กันภัย ผบช.สยศ.ตร. ขึ้น ผบช.ภ.8
- พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 โยกไปเป็น ผบช.ภ.1
- พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ ผบช.ภ.4 ขยับขึ้น ผบช.ภ.2
- พล.ต.ท.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ จตร. (สบ.8) เป็น ผบช.ภ.3
- พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. ไปเป็น ผบช.ภ.4
นอกจากนี้ยังมีการขยับหลายเก้าอี้ภาคต่างๆ เช่น พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ไปคุม ภ.7 และ พล.ต.ต.ศักดิ์รพี เพรียวพานิชย์ ขึ้นเป็น ผบช.รร.นรต.
ความหมายของโผนายพล: ไม่ใช่แค่โยกย้าย แต่คือการจัดทัพอำนาจ
โผแต่งตั้งนายพลตำรวจทุกปี มักสะท้อนสมการทางอำนาจในกองบัญชาการตำรวจ ทั้งเรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างรุ่น นรต. ที่ถือเป็นสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นในวงการสีกากี และการจัดวางคนในตำแหน่งสำคัญเพื่อรองรับงานการเมือง ความมั่นคง และการสืบทอดอำนาจในอนาคต
- รุ่นใหญ่ รุ่นกลาง และรุ่นใหม่ ต่างถูกจัดวางสมดุลให้เหมาะสม
- เก้าอี้สำคัญอย่าง ผบช.ก. / ผบช.ภาค / ผบช.ปส. / ผบช.สอท. ล้วนเป็นหน่วยยุทธศาสตร์ที่มีผลต่อความมั่นคงของชาติ
- การแต่งตั้งครั้งนี้ยังสัมพันธ์กับการเกษียณอายุราชการของรอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร.หลายคน ซึ่งเป็นจังหวะสำคัญของการผลัดใบ
กำหนดเส้นตาย: ต้องเสร็จภายใน 31 สิงหาคม
ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ พ.ศ.2565 การแต่งตั้งโยกย้ายต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 สิงหาคม โดยวันที่ 22 สิงหาคมนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานประชุม ก.ตร. เพื่อตัดสินบัญชีแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
มองไกล: โผนายพลกับอนาคตตำรวจไทย
การแต่งตั้งนายพลตำรวจไม่ใช่เพียงเรื่อง “ใครได้นั่งเก้าอี้ไหน” แต่ยังสะท้อนอนาคตขององค์กรตำรวจว่าจะเดินไปทิศทางใด ท่ามกลางแรงกดดันจากสังคมเรื่อง การปฏิรูปตำรวจ, ความโปร่งใส, การกระจายอำนาจ และการคุมอิทธิพลในภูมิภาค
ในฐานะผู้หญิงที่ติดตามข่าวนี้ ฉันเห็นว่าโผนายพลครั้งนี้คือบทพิสูจน์ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมหรือไม่ที่จะก้าวข้ามภาพลักษณ์เก่า และสร้างความเชื่อมั่นใหม่ต่อประชาชน
✅ ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา