
การประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2568 กลายเป็นข่าวร้อนสะเทือนวงการเศรษฐกิจ เมื่อมีมติเอกฉันท์ ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% จาก 1.75% เหลือ 1.50% ต่อปี มีผลทันทีตั้งแต่ 13 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ถือเป็นการปรับลดครั้งที่ 4 ในรอบนี้ รวมแล้วลดลงรวม 1.00% ภายในปีเดียว
เหตุผลสำคัญที่ กนง. ตัดสินใจลดดอกเบี้ย
- เศรษฐกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอ จากผลกระทบมาตรการภาษีสหรัฐฯ ที่ซ้ำเติมปัญหาเชิงโครงสร้าง และกดดันความสามารถแข่งขันของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs และผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- เงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในระดับต่ำ เพราะราคาอาหารสดและพลังงานลดลงจากผลผลิตเพิ่มและราคาน้ำมันโลกลด แต่ราคาสินค้าและบริการอื่นยังไม่ลดลงในวงกว้าง
- สินเชื่อหดตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินเชื่อ SMEs และสินเชื่อครัวเรือนรายได้ต่ำ ขณะที่คุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มด้อยลง
- ค่าเงินบาทแข็งค่าเกินไป ส่งผลกระทบต่อภาคส่งออกและท่องเที่ยว
ผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนและธุรกิจ
- ลดภาระหนี้
การปรับดอกเบี้ยนโยบายมีผลต่อดอกเบี้ยเงินกู้ของประชาชนและธุรกิจ โดยล่าสุด ธนาคารกรุงเทพ ปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR, MOR, MRR ลง 0.25% เช่นกัน- MLR (เงินกู้รายใหญ่ชั้นดี) เหลือ 6.50%
- MOR (เบิกเกินบัญชีรายใหญ่ชั้นดี) เหลือ 6.75%
- MRR (เงินกู้รายย่อยชั้นดี) เหลือ 6.65%
- ต้นทุนทางการเงินลดลง
ภาคธุรกิจสามารถลงทุนและหมุนเงินได้คล่องขึ้น โดยเฉพาะ SMEs ที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากต้นทุนและการแข่งขันต่างประเทศ - กระตุ้นการบริโภค
เมื่อภาระดอกเบี้ยลดลง ผู้บริโภคมีโอกาสใช้จ่ายมากขึ้น แม้ยังต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง
มุมมองเศรษฐกิจปี 2568-2569
- ครึ่งปีแรก 2568 ขยายตัวดีจากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และการผลิต
- ครึ่งปีหลัง อาจชะลอลงจากการเก็บภาษี transshipment ของสหรัฐฯ และการลดลงของนักท่องเที่ยวระยะใกล้
- การบริโภคเอกชนมีแนวโน้มเติบโตต่ำจากความเชื่อมั่นและรายได้ที่ชะลอ
- ความท้าทาย คือปัญหาโครงสร้างการผลิตที่ยังไม่ถูกแก้ไข และการแข่งขันในภูมิภาคที่รุนแรง
ทำไมการลดดอกเบี้ยครั้งนี้สำคัญ?
- เป็นจังหวะผ่อนคลายนโยบายการเงินที่เหมาะสม เพื่อรับแรงกระแทกจากปัจจัยภายนอก
- ช่วยภาคส่วนเปราะบาง ที่กำลังเผชิญความยากลำบาก ทั้ง SMEs, ครัวเรือนรายได้ต่ำ และผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- ส่งสัญญาณต่อตลาดการเงิน ว่าไทยยังมีความสามารถดูแลเสถียรภาพและสนับสนุนเศรษฐกิจ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับดอกเบี้ยนโยบาย (เกร็ดความรู้)
- ดอกเบี้ยนโยบาย คืออัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลาง (ธปท.) ใช้เป็นเครื่องมือกำหนดทิศทางดอกเบี้ยในระบบการเงิน
- เมื่อ ดอกเบี้ยนโยบายลด → ดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝากในระบบมีแนวโน้มลด → กระตุ้นการกู้ยืมและใช้จ่าย
- เมื่อ ดอกเบี้ยนโยบายเพิ่ม → ดอกเบี้ยในระบบสูงขึ้น → ชะลอการกู้และใช้จ่าย เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
- การปรับดอกเบี้ยมีผลต่อ ค่าเงิน เพราะอัตราดอกเบี้ยสัมพันธ์กับการไหลเข้าออกของเงินทุนต่างชาติ
สรุป
การลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ตัวเลขในห้องประชุม แต่ส่งผลจริงต่อ กระเป๋าเงินของคนไทย และ ทิศทางเศรษฐกิจทั้งประเทศ ทั้งในแง่การลงทุน การใช้จ่าย และความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก
แม้จะเป็นข่าวดีสำหรับผู้กู้ แต่ก็ยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงอย่างภาษีสหรัฐฯ ค่าเงินบาท และความเปราะบางของเศรษฐกิจบางภาคส่วน
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจและการเงิน