เปิดประวัติ “เบสท์ เอกวัฒน์” อดีตพระเอก MV แพ้ทาง จากหนุ่มหล่อใส สู่นักแสดงฝีมือจัดจ้านที่ยังเป็นข่าวร้อน

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ถ้าพูดถึงพระเอกมิวสิกวิดีโอที่เคยครองใจแฟนเพลงไทยในยุคหนึ่ง เชื่อว่าชื่อ “เบสท์ เอกวัฒน์ นิรัตน์วรปัญญา” ต้องโผล่มาเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะจากบทบาทใน MV เพลง “แพ้ทาง” ของวงลาบานูน ที่กลายเป็นภาพจำของใครหลายคน แต่ล่าสุดเรื่องราวของเขากลับกลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล ทั้งจากกระแสดราม่าและชีวิตครอบครัวที่ถูกจับตามอง บ้านกีฬา จะพาไปเจาะลึกทั้งเส้นทางชีวิต การแสดง และเรื่องราวที่ยังเป็นที่พูดถึงไม่จบไม่สิ้น

เส้นทางชีวิต และจุดเริ่มในวงการบันเทิง

  • ชื่อจริง-นามสกุล: เอกวัฒน์ นิรัตน์วรปัญญา
  • วันเกิด: 14 พฤษภาคม 2538 (อายุ 30 ปี)
  • ภูมิลำเนา: กรุงเทพมหานคร
  • การศึกษา:
    • เคยเรียนที่โรงเรียนบอสโกพิทักษ์ จังหวัดนครปฐม
    • จบจากโรงเรียนวัดราชบพิธ
    • ระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงินและการลงทุน มหาวิทยาลัยรังสิต (ได้รับทุนการศึกษา)

เบสท์เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่วัยรุ่น โดยรับบทหลากหลายทั้งภาพยนตร์ ละคร และมิวสิกวิดีโอ ผลงานที่แจ้งเกิดอย่างชัดเจนคือการรับบท “ติ่ง” ในภาพยนตร์เรื่อง Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย ที่ทำให้แฟนๆ จดจำบุคลิกกวนๆ แฝงเสน่ห์ของเขาได้ทันที

ผลงานเด่นในจอแก้วและจอเงิน

เบสท์ผ่านบทบาททั้งในละคร ซีรีส์ และภาพยนตร์ที่หลากหลาย เช่น

  • ละครและซีรีส์: แอลโอแอล ชีวิตคิดบวก (ทรูโฟร์ยู), สายลับจับแอ๊บ (ช่อง 3), Ways To Protect Relationship (GMM25), เด็กใหม่ Girl From Nowhere (Netflix), บางกอก ซีโร่ (PPTV)
  • ภาพยนตร์:
    • Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย
    • A Friend is Another Self – คืนที่สอง ของวันที่สาม
    • เสือเผ่น 1
    • The Cave นางนอน รับบท “โค้ชเอก” ในเหตุการณ์จริงทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง ซึ่งเป็นบทที่ต้องใช้พลังการแสดงอย่างมาก และได้รับคำชมเรื่องการถ่ายทอดอารมณ์สมจริง

พระเอก MV ขวัญใจยุค 2010s

นอกจากงานแสดง เบสท์ยังเป็นพระเอกมิวสิกวิดีโอเพลงดังมากมาย อาทิ

  • แพ้ทาง – ลาบานูน
  • ลืมว่ารัก – Mr.Lazy feat. พีธ พีระ
  • อย่าพูดคำนั้น – KAPBEJ
  • ยินดีที่ได้รัก – S.D.F

เพลง “แพ้ทาง” ไม่เพียงเป็นเพลงฮิต แต่ยังเป็นผลงานที่สร้างภาพจำให้เขาในฐานะหนุ่มตี๋หน้าใสขวัญใจสาวๆ

ดราม่าชีวิตส่วนตัว และกระแสสังคม

ช่วงที่ผ่านมา เบสท์กลับมาอยู่ในสปอร์ตไลต์อีกครั้ง ไม่ใช่เพราะผลงาน แต่เพราะดราม่าครอบครัว หลังมีผู้ใช้ TikTok จากไต้หวันเผยว่า พระเอก MV “แพ้ทาง” คือพ่อแท้ๆ ของลูกสาว ที่หายไปนานถึง 12 ปี ก่อนเพิ่งติดต่อมาขอโทษ ทำให้เกิดกระแสถกเถียงอย่างหนักในโซเชียล

ไม่นานมานี้ เบสท์ได้โพสต์ภาพกับภรรยาคนใหม่และลูกชาย พร้อมแคปชั่นตัดพ้อ “เหลือแค่ 3 รูปนี้ #ไม่คิดถึงทีเคบ้างหรอมาม๊า” รวมถึงแชร์ข้อความสะท้อนความรู้สึกเหงาและโหยหาความรัก จนมีทั้งเสียงวิจารณ์และกำลังใจจากแฟนคลับ

🗓 Timeline ดราม่า “เบสท์ เอกวัฒน์” อดีตพระเอก MV แพ้ทาง

📍 ยุคแจ้งเกิด (ประมาณปี 2556 – 2560)

  • 2556 – รับบท “ติ่ง” ใน Last Summer ฤดูร้อนนั้น ฉันตาย กลายเป็นขวัญใจวัยรุ่น

  • รับบทพระเอก MV เพลงดังหลายเพลง โดยเฉพาะ แพ้ทาง – ลาบานูน ที่สร้างภาพจำจนแฟนเพลงจำได้แม่น

  • เริ่มมีชื่อในวงการและได้ร่วมงานกับผู้กำกับดังหลายคน

📍 ผลงานและบทบาทสำคัญ (2561 – 2563)

  • 2562 – ร่วมแสดงภาพยนตร์ The Cave นางนอน รับบท “โค้ชเอก” ในเหตุการณ์ทีมหมูป่าติดถ้ำ

  • ยังคงมีผลงานละคร ซีรีส์ และภาพยนตร์ต่อเนื่อง เช่น บางกอก ซีโร่, สายลับจับแอ๊บ และหนังของพชร์ อานนท์

  • ภาพลักษณ์ในช่วงนี้ยังคงเป็นหนุ่มหล่อสุขภาพดี

📍 จุดเปลี่ยนภาพลักษณ์ (2564 – 2566)

  • เริ่มมีภาพในโซเชียลที่ร่างกายซูบผอมผิดหูผิดตา จนแฟนคลับตั้งข้อสงสัยเรื่องสุขภาพ

  • พชร์ อานนท์ โพสต์ภาพเปรียบเทียบ “อดีต vs ปัจจุบัน” ของเบสท์ ทำให้เกิดการพูดถึงในโลกออนไลน์

  • แม้มีเสียงห่วงใย แต่ก็ยังมีแฟนคลับให้กำลังใจและรอผลงาน

📍 ดราม่าครอบครัว (2567 – ปัจจุบัน)

  • ต้นปี 2567 – ผู้ใช้ TikTok จากไต้หวันโพสต์เล่าว่า พระเอก MV “แพ้ทาง” คือพ่อแท้ๆ ของลูกสาว ที่หายไปกว่า 12 ปี ก่อนเพิ่งทักมาขอโทษ

  • เรื่องราวถูกแชร์จนกลายเป็นไวรัล และมีการยืนยันชื่อว่าเป็น “เบสท์ เอกวัฒน์”

  • เกิดการถกเถียงในโซเชียลอย่างหนัก มีทั้งเสียงวิจารณ์และเสียงให้โอกาส

  • กลางปี 2567 – เบสท์โพสต์ภาพคู่ภรรยาคนใหม่และลูกชาย พร้อมแคปชั่นตัดพ้อ “เหลือแค่ 3 รูปนี้ #ไม่คิดถึงทีเคบ้างหรอมาม๊า”

  • แชร์ข้อความเชิงความรู้สึกเหงา เช่น “อย่ารำคาญกันเลย ถ้าฉันต้องการความรัก ความสนใจจากเธอมากเกินไป ก็เพราะฉันไม่มีใคร ฉันมีแค่เธอ”

  • ชาวเน็ตบางส่วนเข้ามาให้กำลังใจ ขณะที่อีกส่วนยังวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่อง


📌 วิเคราะห์กระแสและบทเรียน

  1. ชื่อเสียงในอดีตช่วยให้คนจดจำ – ผลงานดังอย่าง แพ้ทาง ทำให้เรื่องราวของเขาได้รับความสนใจทันทีเมื่อมีข่าว

  2. โซเชียลมีเดียคือดาบสองคม – การโพสต์แคปชั่นส่วนตัวสามารถปลุกกระแสได้ทั้งบวกและลบ

  3. การสื่อสารสำคัญ – หากเกิดดราม่า การออกมาชี้แจงอย่างตรงไปตรงมาอาจช่วยลดความเข้าใจผิด

  4. ผลงานคือสิ่งที่พิสูจน์ตัวตน – แม้มีปัญหาส่วนตัว แต่หากยังทำผลงานคุณภาพ ก็ยังมีแฟนคลับคอยสนับสนุน

มุมมองต่อเส้นทางในวงการ

แม้จะมีดราม่ารุมเร้า แต่ในมุมของการทำงาน เบสท์ยังคงเป็นนักแสดงมากฝีมือที่ผ่านบทท้าทายและมีแฟนคลับติดตามต่อเนื่อง การที่เขาได้รับบท “โค้ชเอก” ใน The Cave ถือเป็นหลักฐานของความสามารถด้านการแสดง และการที่ยังมีผู้จ้างงานในภาพยนตร์ของผู้กำกับดังอย่างพชร์ อานนท์ ก็สะท้อนว่าเขายังมีที่ยืนในวงการ

สิ่งที่ผู้อ่านควรรู้ (แง่มุมที่ใช้ได้เสมอ)

  • การอยู่ในวงการบันเทิงยาวนาน ต้องอาศัยทั้งความสามารถและภาพลักษณ์ที่ดี
  • ดราม่าอาจทำให้ชื่อเสียงเสียหายได้ แต่การจัดการวิกฤติอย่างมีสติสามารถพลิกภาพลักษณ์ได้
  • แฟนคลับที่ติดตามมานานมักให้โอกาสศิลปิน หากยังคงส่งผลงานคุณภาพออกมา

แม้เรื่องราวชีวิตจะเต็มไปด้วยทั้งแสงสปอตไลต์และเงามืด แต่ เบสท์ เอกวัฒน์ ก็ยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่น่าจับตามอง ทั้งในฐานะนักแสดง และในฐานะมนุษย์ที่ต้องเดินต่อท่ามกลางสายตาของสังคม

📌 ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา เพื่อไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหว

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา