
ความเคลื่อนไหวระอุจากแนวชายแดนตะวันออกของไทยกำลังเขย่าประเทศ! เช้าวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เสียงระเบิดและปืนใหญ่ปลุกผู้คนในจังหวัดตราดให้ตื่นขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดเต็มขั้น การประกาศ “กฎอัยการศึก” ในพื้นที่ชายแดนที่ร้อนแรงที่สุด กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งสัญญาณว่า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่โหมดความมั่นคงขั้นสูงสุด!
กองทัพเรือไทยไม่รอช้า ทัพเรือภาคที่ 1 ส่งหมวดเรือเฉพาะกิจ 4 ลำประจำการที่เกาะกูด หนุนเต็มกำลังยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี 1” โดยประกาศชัดพร้อมยิงสนับสนุนภาคพื้นดินทันทีภายใน 1 นาทีหลังรับคำสั่ง ท่ามกลางเสียงสะท้อนจากประชาชนชายแดนที่เริ่มอพยพกว่าแสนรายไปยังศูนย์พักพิงทั่วภาคตะวันออกและอีสานใต้
กฎอัยการศึกคืออะไร? ทำไมจึงต้องประกาศใช้?
กฎอัยการศึก เป็นกฎหมายพิเศษที่ให้อำนาจฝ่ายทหารเข้าควบคุมสถานการณ์ความมั่นคงโดยตรง แทนที่อำนาจของฝ่ายพลเรือน เช่น ตำรวจหรือผู้ว่าฯ โดยสามารถ:
- ควบคุมเส้นทางคมนาคม
- ตรวจค้น จับกุม หรือควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยโดยไม่ต้องมีหมายศาล
- สั่งห้ามชุมนุม หรือประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
- ระงับการออกสื่อหรือข่าวสารบางประเภทเพื่อความมั่นคง
ในอดีต ประเทศไทยเคยประกาศใช้กฎอัยการศึกในหลายเหตุการณ์สำคัญ เช่น ปี 2557 ช่วงวิกฤตการเมือง และล่าสุดครั้งนี้ใน จ.ตราด และ จ.จันทบุรี ที่เป็นแนวปะทะใหม่ระหว่างไทย-กัมพูชา
ภาพรวมยุทธการตราดพิฆาตไพรี 1 – ไทยแสดงแสนยานุภาพเหนือทะเลและบก
ภายใต้การนำของกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กองทัพเรือจัดกำลัง เรือเร็วโจมตีปืน และ เรือตรวจการณ์ปืน จำนวน 4 ลำ พร้อมบรรทุกอาวุธประจำเรือที่ทรงอานุภาพ เตรียมยิงสนับสนุนใน 1 นาทีตามคำสั่ง ย้ำสถานะ “พร้อมรบเต็มพิกัด”
ขณะเดียวกัน บนภาคพื้นดิน ยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี” ดำเนินอย่างเข้มข้นในพื้นที่เกาะกูด-บ้านหาดเล็ก โดยกองกำลังนาวิกโยธิน และทหารบกทำหน้าที่ตรึงกำลังในแนวชายแดน ร่วมผลักดันกองทัพกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามา
จากรายงานพบว่าฝ่ายกัมพูชาได้ถอยร่นกลับหลังถูกต้านทานอย่างหนักในช่วงเช้าของวันที่ 26 ก.ค. การตอบโต้โดยกองทัพไทยครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการ “แสดงศักยภาพป้องกันอธิปไตย” อย่างเต็มรูปแบบ
ความสูญเสียที่ต้องแลกมากับอธิปไตย
จนถึงขณะนี้ พลเรือนไทยเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ราย บาดเจ็บกว่า 46 ราย ส่วนทหารไทยเสียชีวิต 7 นาย ในขณะที่โรงพยาบาลแนวหน้าถูกปิดไปแล้วอย่างน้อย 7 แห่ง และมีทหารเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุลาดตระเวนตกเขาอีกหลายราย
การอพยพประชาชนกว่า 130,000 คนใน 4 จังหวัดแนวชายแดน ทำให้กระทรวงมหาดไทยต้องจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 295 แห่ง เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างเป็นระบบ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในภารกิจใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
โซเชียลเดือด! ทักษิณตอบโต้ “ฮุน เซน” จุดชนวนความขัดแย้ง?
อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อถึงต้นเหตุความขัดแย้ง โดยชี้ว่า “ผู้นำกัมพูชานั่งติดโซเชียลจนกลายเป็นซอมบี้” พร้อมยืนยันเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่เพราะ “เขาหาเรื่อง” เพื่อสร้างกระแสชาตินิยมในประเทศ
เขาย้ำว่า “พื้นที่ที่ไทยกำลังผลักดันทวงคืน เคยอยู่ในครอบครองของเรา และเรามีสิทธิ์ในบริบทความมั่นคง” โดยให้ทหารไทยดำเนินยุทธการให้เสร็จสิ้นก่อนจึงจะเปิดการเจรจา
ท่าทีของทักษิณครั้งนี้ถือว่าแข็งกร้าวที่สุดตั้งแต่เกิดความขัดแย้ง และยิ่งทำให้ประชาชนติดตามสถานการณ์ด้วยใจระทึก
จุดปะทะ-พื้นที่เสี่ยงสูงสุด
- จ.ตราด – อ.เมือง (บ้านชำราก), อ.คลองใหญ่ (บ้านหาดเล็ก), อ.เขาสมิง
- จ.จันทบุรี – 7 อำเภอที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก
- จ.สระแก้ว – อ.ตาพระยา, อ.โคกสูง
- จ.ศรีสะเกษ – อ.กันทรลักษ์ โดยเฉพาะจุดยุทธศาสตร์ “ภูมะเขือ”
- จ.สุรินทร์ – อ.พนมดงรัก
- จ.อุบลราชธานี – อ.น้ำยืน
- จ.บุรีรัมย์ – อ.บ้านกรวด
ทั้งหมดนี้คือแนวปะทะซึ่งฝ่ายไทยใช้แผนยุทธการผลักดันข้าศึกออกจากเขตแดนอย่างเป็นระบบ โดยมีการสนับสนุนจากทัพเรือ อากาศยาน และเทคโนโลยีโดรนสำรวจสนามเหมือง
แล้วประชาชนควรทำอย่างไร?
ในช่วงประกาศใช้กฎอัยการศึก หน่วยงานรัฐและทหารขอความร่วมมือจากประชาชนในเขตพื้นที่ดังกล่าวดังนี้:
- หลีกเลี่ยงเดินทางเข้าใกล้แนวชายแดน
- ห้ามเผยแพร่ภาพเคลื่อนไหวของยุทธการ-อาวุธ-ฐานทหาร
- อยู่ในที่พักพิงหรือหลบภัยตามคำแนะนำ
- ติดตามข่าวสารจากศูนย์ข้อมูลของรัฐบาลหรือกองทัพเท่านั้น
- ระมัดระวังการแชร์ข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนก
บทเรียนจากอดีต และความสำคัญของอธิปไตย
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชานั้นมีความซับซ้อนและเปราะบางอย่างยิ่ง จากประวัติศาสตร์ที่ยืดยาวและการอ้างสิทธิ์ในพื้นที่พิพาทหลายจุด การเฝ้าระวังพรมแดนและการเตรียมพร้อมรบจึงกลายเป็นภารกิจหลักของกองทัพไทยในทุกยุคทุกสมัย
สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การไม่ประมาท” เพราะในอดีตเราก็เคยผ่านเหตุการณ์อย่างกรณีปราสาทพระวิหารในปี 2551-2554 ซึ่งมีการปะทะต่อเนื่องนานนับปี ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทวิภาคีอย่างรุนแรง
สรุป: การยืนหยัดของไทยในยุทธการปกป้องแผ่นดิน
สถานการณ์ที่ชายแดนไทย-กัมพูชาวันนี้ไม่ใช่เพียงเกมการเมือง แต่คือบทพิสูจน์ “ศักดิ์ศรีของอธิปไตยไทย” ที่ประชาชนทั้งประเทศต่างต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่เหล่าทหารหาญจากทุกเหล่าทัพกำลังสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินเกิด ด้วยหัวใจที่ไม่หวั่นแม้แต่ขีปนาวุธ PHL-03
เราทุกคนขอส่งแรงใจให้พี่น้องประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ขอให้เหตุการณ์ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และสันติภาพกลับคืนสู่ผืนแผ่นดินไทยในเร็ววัน
ติดตาม ข่าวเด่น ข่าววันนี้ ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา ได้ทุกวัน ไม่พลาดทุกจังหวะของความเคลื่อนไหวที่สั่นสะเทือนประเทศ