สถานการณ์สุดอึดอัดของ โยโกฮามา เอฟซี ทีมดังแดนปลาดิบที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นใน เจลีก 1 ฤดูกาล 2025 ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อสโมสรประกาศแยกทางกับกุนซือ ชูเฮ โยโมดะ อย่างเป็นทางการ หลังพาทีมทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง จมอยู่รองบ๊วยของตารางคะแนนเก็บได้เพียง 19 แต้มจาก 24 นัด และยังมองไม่เห็นทางสว่างในการพาทีมพ้นโซนตกชั้น โดยโยโกฮามาฯ ตัดสินใจดึงตัว ฟุมิทาเกะ มิอุระ กุนซือประสบการณ์วัย 54 ปี เข้ามานั่งเก้าอี้แทนทันควัน เพื่อหวังสร้างแรงกระตุ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลให้ทีมรอดพ้นวิกฤติ
แม้ผลงานในอดีตของ โยโมดะ จะไม่ธรรมดา หลังเข้ารับงานคุมทีมโยโกฮามา เอฟซี ตั้งแต่ปี 2022 และพาทีมคว้ารองแชมป์ เจลีก 2 ได้ถึงสองครั้งในปี 2022 และ 2024 พร้อมกับพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดทั้งสองครั้งอย่างน่าชื่นชม ทว่าเมื่อขึ้นมาเล่นใน เจลีก 1 ผลงานกลับไม่สามารถตอบโจทย์ความคาดหวังได้เลย ตลอดสองฤดูกาลในลีกสูงสุดทั้งปี 2023 และ 2025 ทีมยังคงวนเวียนอยู่ในโซนตกชั้น และปีนี้สถานการณ์ยิ่งหนักหน่วงจนนำมาซึ่งการแยกทางในที่สุด
การปลดโยโมดะในครั้งนี้ยังสร้างสถิติให้เขากลายเป็นกุนซือรายที่ 4 ของ เจลีก 1 ฤดูกาล 2025 ที่โดนเด้งก่อนจบซีซั่น ต่อจากสองโค้ชชื่อดัง สตีฟ ฮอลแลนด์ และ พาทริค คริสนอร์โบ ของ โยโกฮามา เอฟ มารินอส และ ไดสุเกะ คิโมริ ของ อัลบิเร็กซ์ นิงาตะ ที่ถูกเด้งไปก่อนหน้านี้
สำหรับ ฟุมิทาเกะ มิอุระ ที่เข้ามารับงานในสถานการณ์สุดกดดันครั้งนี้ นับว่าเป็นภารกิจที่ท้าทายไม่น้อย เพราะเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่นัดในฤดูกาลนี้ เขาจะต้องพลิกฟื้นผลงานให้ได้โดยเร็ว เพื่อพาโยโกฮามา เอฟซี อยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุดให้ได้ตามเป้า
บทสรุปของการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงมาตรฐานอันโหดร้ายของเวที เจลีก 1 ที่ไม่เปิดโอกาสให้ใครอยู่ได้นานหากไม่สามารถพาทีมโชว์ผลงานที่คู่ควร และการกลับมาของมิโอระในครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเดิมพันที่แฟนบอลจับตาด้วยลมหายใจร้อนแรง ว่าเขาจะสามารถพาโยโกฮามาฯ ฝ่ามรสุมครั้งนี้ไปได้หรือไม่
ติดตามข่าวเดือดๆ แบบนี้ต่อได้ที่ บอลเจลีกบ้านกีฬา
