
เมื่อพูดถึงชื่อ เรอัล มาดริด สโมสรราชันชุดขาวย่อมไม่อาจพอใจได้กับคำว่า “รองแชมป์” หรือ “ไร้แชมป์” แต่ความจริงอันโหดร้ายของฤดูกาลล่าสุดก็ปรากฏชัดว่า แม้จะได้ยอดดาวยิง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ มาเสริมทัพ พวกเขากลับจบซีซั่นแรกในยุคของหัวหอกเฟรนช์แมนแบบไร้ถ้วยใหญ่ติดมือ สะท้อนว่า ชาบี อลอนโซ่ นายใหญ่คนใหม่ที่มารับงานต่อจาก คาร์โล อันเชล็อตติ มีการบ้านก้อนโตต้องรีบสะสาง หากหวังจะปลุกยักษ์ใหญ่แห่งเบร์นาเบวให้กลับมาเขย่ายุโรปอีกครั้ง
ความพ่ายแพ้หมดรูปต่อ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 0-4 ในรอบรองฯ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ คือสัญญาณเตือนภัยชัดเจนว่าแม้จะมีกองหน้าแพงที่สุดในโลกอยู่ในทีม แต่โครงสร้างและแผนงานของราชันยังมีช่องโหว่มหาศาล และต่อให้ได้แชมป์เล็กๆ อย่าง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ หรือ อินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ มันก็ยังไม่ตอบโจทย์ความทะเยอทะยานของแฟนบอลที่คาดหวังถ้วยใหญ่แบบ ลา ลีกา หรือ แชมเปี้ยนส์ลีก
เมื่อพิจารณาจากขุมกำลังที่เหลือและปัญหาที่ปรากฏ บ้านกีฬา สรุป 6 ภารกิจเร่งด่วนที่อลอนโซ่ต้องเดินเครื่องแบบไม่อ้อมค้อม เพื่อคืนความยิ่งใหญ่สู่ถิ่นมาดริดในซีซั่นหน้า
1. หาตัวแทน โมดริช ให้ได้ทันเวลา
หลังจาก ลูก้า โมดริช ปิดฉากตำนาน 13 ปีกับราชันด้วยการย้ายซบ เอซี มิลาน ในวัย 39 ปี แม้ในซีซั่นล่าสุดเขาจะเป็นเพียงสำรอง แต่ความจริงแล้วนี่คือห้องเครื่องที่เคยเป็นหัวใจของทีม และแม้ตอนนี้ทีมจะพยายามปั้น อาร์ด้า กือแลร์ ดาวรุ่งชาวตุรกีวัย 20 ปี ขึ้นมารับช่วง แต่ก็ยังไม่อาจฝากความหวังได้เต็มร้อย เพราะขาดทั้งประสบการณ์และความคงเส้นคงวา ขณะที่ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ก็กำลังเข้ารับการผ่าตัดและต้องพักถึงเดือนตุลาคม ทำให้แดนกลางมาดริดไร้แม่ทัพตัวจริงในช่วงเปิดฤดูกาล นี่คือจุดสำคัญที่ต้องหาคนมาทดแทนอย่างเร่งด่วน
2. ตัดใจโละ โรดรีโก้ เพื่อระดมทุนเสริมทีม
แม้ โรดรีโก้ จะเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก แต่ภาพรวมยังไม่ดีพอสำหรับทีมที่ตั้งเป้าแชมป์ใหญ่ เขาถูกดร็อปเป็นสำรองหลายครั้ง และเริ่มถูกกระแสแฟนบอลมองว่าไม่คุ้มค่ากับการเก็บไว้เป็นภาระค่าเหนื่อย อาร์เซน่อลเคยให้ความสนใจแต่สุดท้ายไปเลือก มาดูเอเก้ ของเชลซี ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยังมีข่าวลือพร้อมทุ่มคว้าตัว โรดรีโก้ แทน หลุยส์ ดิอาซ หากข้อเสนอเหมาะสมก็ถึงเวลาที่อลอนโซ่จะตัดใจขายเพื่อระดมทุนหาผู้เล่นที่มีศักยภาพสูงกว่า
3. ล่า โกนาเต้ ปิดเกมรับ
หลังจากได้ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาอุดรอยรั่วริมเส้น แฟร้งค์เฟิร์ตก็ยังเล็งเป้าไปที่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟฝรั่งเศสอย่าง อิบราฮิม่า โกนาเต้ ของลิเวอร์พูลที่เหลือสัญญาเพียงปีเดียว และมีท่าทีไม่ต่อสัญญา ความน้อยใจที่เขารู้สึกว่าอยู่ภายใต้เงาของ ฟาน ไดค์ ตลอดเวลายิ่งทำให้ข่าวลือการย้ายทีมมีมูลมากขึ้น หากเรอัล มาดริดเดินเกมเร็วก็มีโอกาสได้ปราการหลังดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสมาครองในราคาที่คุ้มค่า
4. ต่อสัญญากับ วินิซิอุส ป้องกันปัญหาลุกลาม
เมื่อ เอ็มบัปเป้ ก้าวเข้ามา วินิซิอุส กลายเป็นนักเตะที่ถูกลดบทบาทและมีข่าวลือกับลีกซาอุฯ แต่ความจริงแล้วนี่คือนักเตะวัย 25 ที่ยังอยู่ในช่วงพีคสุดๆ ของอาชีพ และหากจับคู่กับเอ็มบัปเป้ได้ลงตัว แนวรุกมาดริดจะน่ากลัวไม่แพ้ทีมไหนในโลก อลอนโซ่จึงต้องเร่งปิดดีลต่อสัญญายาวกับ วินิซิอุส เพื่อกันไม่ให้ดราม่ากระทบทีมในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของฤดูกาล
5. เสริมปีกขวาคุณภาพระดับโลก
การไม่มีตัวจริงถาวรในตำแหน่งปีกขวาคือปัญหาที่คาราคาซัง เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ถูกจับโยกไปมา บราฮิม ดิอาซ ฟอร์มไม่สม่ำเสมอ กือแลร์ก็เหมาะจะเล่นตรงกลางมากกว่า หากมาดริดอยากเทียบชั้นทีมที่มี ซาลาห์, ซาก้า หรือ ยามาล ควรเดินหน้าหาปีกขวาระดับท็อปมาติดอาวุธเพิ่มทันที
6. เพิ่มตัวเลือกแบ็คขวาอีกหนึ่งราย
แม้ได้ เทรนต์ มาร่วมทัพแล้ว แต่ด้วยสไตล์ที่เน้นเกมรุกมากกว่าเกมรับ บวกกับการเสีย ลูกัส บาซเกซ ไป มาดริดจำเป็นต้องหาตัวเลือกแบ็คขวาเพิ่มอีกหนึ่งเพื่อให้ทีมมีมิติและความยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเลือกถอย เทรนต์ ไปเล่นวิงแบ็ค หรือใช้ วัลเวร์เด้ ก็ไม่อาจดึงศักยภาพสูงสุดของพวกเขาได้ในระยะยาว ดังนั้นต้องมีแผนสำรอง
หาก ชาบี อลอนโซ่ เร่งเคลียร์ทั้ง 6 ภารกิจสำคัญนี้ทันก่อนเปิดฤดูกาล เชื่อว่า เรอัล มาดริด จะกลับมาทวงบัลลังก์คืนได้อย่างสง่างามอีกครั้ง
ติดตามบทวิเคราะห์ฟุตบอลดุดันแบบนี้ได้ทุกวันที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา