เสียงเตือนกึกก้องจากฝั่งอิตาลีที่วงการลูกหนังโลกควรต้องฟังไว้ให้ดี เมื่อ ออเรลิโอ เด เลาเรนติส ประธานจอมโผงผางของ นาโปลี ออกโรงแสดงท่าทีอย่างดุดัน พร้อมสาดคำเตือนแรงถึงอนาคตของฟุตบอล ว่าหากยังปล่อยให้ทุกอย่างเดินไปบนเส้นทางเดิมโดยไร้การแก้ไข ภายในเวลาเพียง 2-3 ปี ฟุตบอลอาจล้มหายตายจากสายตาผู้คน และสิ่งที่คนทั้งโลกหลงรักอาจไม่เหลือเค้าเดิมอีกต่อไป
ผู้บริหารวัยเก๋ารายนี้แสดงความเห็นต่อสาธารณะแบบไม่เกรงใจใคร ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลายปีหลังเกี่ยวกับจำนวนแมตช์แข่งขันที่มากเกินไป จนทำให้ร่างกายของนักเตะถูกใช้งานอย่างหนักหน่วง ทั้งรายการระดับสโมสร, ฟุตบอลทีมชาติ และล่าสุดกับแนวคิด ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ รูปแบบใหม่ ที่ถูกยกเครื่องให้เป็นมหกรรมใหญ่ระดับโลก ซึ่งหลายฝ่ายมองว่านั่นคือฟางเส้นสุดท้ายที่พร้อมจะฉีกขาดได้ทุกเมื่อ
เด เลาเรนติส จึงไม่รอช้าที่จะพูดตรงไปตรงมาเพื่อเรียกสติให้ทุกฝ่าย โดยกล่าวว่า “ตอนนี้เรากำลังอยู่ในระบบที่ผุพัง ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และไม่มีท่าทีว่าจะหยุด เราลงเล่นในทุกรายการใหญ่ก็จริง แต่มันเต็มไปด้วยปัญหาที่ถูกละเลยมานาน เราต้องตัดสินใจครั้งสำคัญเพื่อความอยู่รอดของฟุตบอล ถ้าเรายังดึงดันทำแบบเดิมต่อไป อีก 2 หรือ 3 ปีข้างหน้า ฟุตบอลอาจถึงคราวล่มสลายก็เป็นได้”
หัวเรือใหญ่แห่งถิ่นซาน เปาโล ยังตอกย้ำถึงผลเสียอันชัดเจนที่กำลังเกิดขึ้นกับผู้เล่น “ทุกวันนี้นักเตะสุขภาพทรุดโทรมลงอย่างต่อเนื่อง เพราะถูกบังคับให้ลงเล่นมากเกินไปเพื่อเอาใจธุรกิจเบื้องหลัง คนใหญ่คนโตเหล่านั้นกำลังบ่อนทำลายวงการนี้ด้วยความโลภ พวกเขาไม่ได้คิดถึงการพัฒนาและยั่งยืนจริงๆ สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้กลับกลายเป็นการฉุดรั้งให้ฟุตบอลถอยหลัง”
น้ำเสียงและท่าทีจริงจังของประธานนาโปลีสะท้อนถึงความกังวลลึกๆ ที่กำลังลามไปทั่ววงการ แม้จะเป็นความจริงที่หลายคนรู้ดีแต่กลับไม่มีใครกล้าพูดออกมาตรงๆ อย่างเขา ท่ามกลางความกดดันจากผู้มีอำนาจและผลประโยชน์ที่มหาศาล เด เลาเรนติสคือตัวแทนเสียงสะท้อนจากฝั่งสโมสรที่ต้องเผชิญหน้ากับสภาพร่างกายนักเตะที่กรอบเกินรับไหวในแต่ละฤดูกาล
คำเตือนครั้งนี้ไม่เพียงแต่กระตุกให้ฟีฟ่า ยูฟ่า และสมาคมต่างๆ ต้องคิดหนักเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนให้แฟนบอลทั่วโลกได้ตระหนักว่า ฟุตบอลอันเป็นที่รักของเราอาจไม่เหลือร่องรอยเดิม หากปล่อยให้ความละโมบเข้ามาครอบงำทุกอย่าง
ติดตามทุกมุมมองเผ็ดร้อนจากวงการลูกหนังโลกแบบจัดเต็มได้ทุกวันที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
