สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เดินหน้าสานต่อศึกฟุตบอลรายการใหญ่ของชาติอย่างเต็มภาคภูมิ ล่าสุดประกาศเลือก จังหวัดกาญจนบุรี เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ประจำปี 2568 อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะฟาดแข้งระหว่างวันที่ 1-9 กันยายน 2568 ตรงกับช่วง ฟีฟ่าเดย์ โดยงานนี้แฟนบอลทั้งประเทศเตรียมสัมผัสบรรยากาศเกมระดับนานาชาติในสนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ที่จุผู้ชมได้กว่า 7,800 ที่นั่ง พร้อมกระหึ่มเสียงเชียร์ให้สะเทือนไปทั้งเมือง
ศึกคิงส์คัพถือเป็นหนึ่งใน ทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลเก่าแก่ที่สุดของไทย และยังมีอายุยาวนานเป็นอันดับ 2 ของทวีปเอเชีย นับตั้งแต่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2511 ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานถ้วยรางวัล “คิงส์คัพ” อันทรงเกียรติให้กับทีมชนะเลิศ และยังคงสืบสานความยิ่งใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยปีนี้จะเป็นครั้งที่ 51 ของการแข่งขัน
บรรยากาศการแถลงข่าวมอบสิทธิ์เจ้าภาพเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมี นายสิทธิวีร์ วรรณพฤกษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วย นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นตัวแทนรับมอบสิทธิ์อย่างเป็นทางการในงาน FA Thailand Awards 2024/25 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่กาญจนบุรีได้รับหน้าที่จัดการแข่งขันฟุตบอลนานาชาติระดับนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการกระจายความนิยมของฟุตบอลไทยสู่หัวเมืองใหญ่ พร้อมยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของจังหวัด ทั้งสนามแข่งขัน สนามซ้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ได้มาตรฐานระดับ AFC และ FIFA
สำหรับรูปแบบการแข่งขันยังคงเป็นระบบ น็อคเอาท์ 4 ทีม เริ่มจากรอบรองชนะเลิศ ก่อนหาทีมเข้ารอบชิงชนะเลิศและชิงอันดับสาม ซึ่งทุกแมตช์เป็นเกมระดับ International ‘A’ Match มีผลต่อคะแนน ฟีฟ่าแรงกิ้ง ของแต่ละทีมโดยตรง โดยปีนี้จะมี 4 ชาติร่วมชิงชัย ได้แก่
- ทีมชาติไทย (อันดับ 102 ของโลก) แชมป์เก่าคิงส์คัพ
- ทีมชาติอิรัก (อันดับ 58 ของโลก) ขาประจำโซนเอเชีย
- ทีมชาติฮ่องกง (อันดับ 147 ของโลก) คู่แข่งหน้าเดิมจากโซนตะวันออก
- ทีมชาติฟิจิ (อันดับ 150 ของโลก) ม้ามืดจากโซนโอเชียเนีย
ส่วนการจับสลากประกบคู่แข่งขันจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในลำดับถัดไป
สมาคมฯ เชื่อมั่นว่าการจัดการแข่งขันที่กาญจนบุรีครั้งนี้จะสร้างสีสันและยกระดับมาตรฐานวงการฟุตบอลไทยไปอีกขั้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้แฟนบอลในภูมิภาคได้สัมผัสบรรยากาศเกมทีมชาติแบบใกล้ชิด ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนากีฬาฟุตบอลในระยะยาวทั้งในแง่ความนิยมและคุณภาพสนามที่ได้มาตรฐานระดับสากล
บ้านกีฬา จะเกาะติดทุกความเคลื่อนไหวของศึกคิงส์คัพครั้งนี้แบบเข้มข้น ทั้งข่าวความพร้อมของแต่ละทีม ผลการจับสลาก และบทวิเคราะห์ก่อนเกม รอติดตามได้ตลอดจนถึงเสียงนกหวีดสุดท้ายของนัดชิง
ติดตามข่าวฟุตบอลทีมชาติไทยและศึกคิงส์คัพทุกมุมมองได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา
