Grok AI เขย่าโลก! สัญญา 200 ล้านดอลลาร์กับเพนตากอน เปิดศักราชใหม่ของ AI ความมั่นคงสหรัฐฯ

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

Grok AI กลายเป็นชื่อที่ร้อนแรงที่สุดในวงการเทคโนโลยีและการเมืองโลก หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD) ลงนามสัญญา มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ กับบริษัท xAI ของ Elon Musk ภายใต้โครงการ “Grok for Government” นี่คืออีกก้าวใหญ่ของการนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเป็นหัวใจสำคัญของภารกิจความมั่นคง และเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ทำให้โลกต้องจับตา ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่ยังเพราะเบื้องหลังเต็มไปด้วยเกมอำนาจ ดราม่า และทิศทางใหม่ของโลกในยุค AI

Grok AI คืออะไร? ทำไมเพนตากอนถึงเลือก?

Grok AI เปิดตัวช่วงปลายปี 2023 ในฐานะแชทบอทที่ถูกออกแบบมาให้ “ตรงไปตรงมา ไม่กรองคำตอบ” แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง ChatGPT ของ OpenAI หรือ Bard ของ Google ซึ่งมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นกลางจนเกินไป Grok เลือกจะพูดอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรมชาติ ทำให้มันถูกใจผู้ใช้จำนวนมากบนแพลตฟอร์ม X (Twitter เดิม) ที่ Musk เป็นเจ้าของ และไม่นานก็ถูกพัฒนาต่อยอดสู่ Grok 4 เวอร์ชั่นล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงานภาครัฐและความมั่นคงโดยเฉพาะ

Grok AI สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติ ในสเกลองค์กร วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลแบบเรียลไทม์ และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมลับสุดยอด ซึ่งทั้งหมดนี้ตอบโจทย์ DoD ที่ต้องการ AI มารองรับทั้งในภารกิจสนามรบและงานเอกสารองค์กร

เพนตากอนเทใจ xAI ในสมรภูมิแข่งขันสุดเดือด

สัญญานี้เกิดขึ้นในบริบทที่รัฐบาลสหรัฐฯ เร่งผลักดันการใช้ AI อย่างจริงจัง ภายใต้นโยบายของทำเนียบขาวที่สนับสนุนการนำ AI มาใช้ในหน่วยงานรัฐเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยในคราวเดียวกันนี้ OpenAI, Google และ Anthropic ก็ได้รับสัญญาในมูลค่าใกล้เคียงกันเช่นกัน เพื่อสร้างการแข่งขันและลดความเสี่ยงในการพึ่งพาบริษัทใดบริษัทหนึ่งมากเกินไป

แต่ที่น่าสนใจคือการที่ xAI ของ Musk กลายเป็นบริษัทที่ถูกพูดถึงมากที่สุด แม้เพิ่งมีประเด็นดราม่าเรื่อง Grok พูดข้อความเชิงต่อต้านยิวและชมเชย Hitler บน X จน Musk ต้องออกมาขอโทษและยอมรับว่าเป็นเพราะ “AI เชื่อฟังเกินไป” พร้อมประกาศแก้ไขโดยด่วน

เกมการเมือง Musk–ทรัมป์: ดราม่าที่ไม่มีวันจบ

เบื้องหลังสัญญาฉบับนี้ยังสะท้อนความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่าง Musk กับประธานาธิบดีทรัมป์ ในปี 2024 Musk สนับสนุนแคมเปญเลือกตั้งของทรัมป์ด้วยเงินกว่า 250 ล้านดอลลาร์ จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าโครงการ “DOGE” เพื่อลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล แต่ต่อมา Musk กลับออกมาวิจารณ์กฎหมาย “Big Beautiful Bill” ของทรัมป์ว่าเป็นภาระกับประชาชน จนเกิดความบาดหมางและเขาต้องลาออกจากตำแหน่ง

ทรัมป์ถึงขั้นขู่จะใช้ DOGE เล่นงานธุรกิจของ Musk และพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะ “เนรเทศ” เขาออกนอกประเทศ แม้ว่า Musk จะเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และถือสัญชาติแคนาดาด้วยก็ตาม

แม้ความสัมพันธ์จะตึงเครียด แต่ xAI ก็ยังเดินหน้าโครงการในสายงานรัฐบาลต่อไปอย่างเต็มกำลัง และสัญญาฉบับนี้อาจเป็นช่องทางใหม่ในการเข้าถึงข้อมูลระดับชาติที่ xAI เคยมีในสมัย DOGE อีกด้วย

ทำไม Grok จึงเป็นตัวเลือกที่ใช่ในสนามรบยุคใหม่?

โลกความมั่นคงในศตวรรษนี้ไม่ได้สู้กันแค่ด้วยปืนและระเบิดอีกต่อไป แต่สู้กันด้วยข้อมูลและการตัดสินใจที่รวดเร็ว Grok ถูกมองว่าเป็น AI ที่ตอบสนองได้เร็ว ตัดสินใจเฉียบคม และไม่กลัวที่จะเสนอความเห็นตรงไปตรงมา คุณสมบัติเหล่านี้สำคัญมากเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เดิมพันสูง ซึ่งต้องใช้ข้อมูลจากหลายแหล่งประกอบการตัดสินใจแบบทันที

นอกจากนี้ความสามารถในการ customized ให้เข้ากับภารกิจเฉพาะ ของแต่ละหน่วยงาน และการรองรับสภาพแวดล้อมลับสุดยอด คือจุดขายที่ทำให้ Grok เหมาะสมกับงานนี้ที่สุด

ข้อกังวลและคำถามต่ออนาคต

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนจะรู้สึกสบายใจกับข้อตกลงนี้ มีคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและความโปร่งใส เพราะในอดีต Musk เคยถูกวิจารณ์ว่ามีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของประชาชนมากเกินไป อีกทั้งความเสี่ยงที่ AI จะถูก “หลอก” ให้พูดหรือทำสิ่งไม่เหมาะสมยังคงเป็นประเด็น

แต่เมื่อโลกหมุนไปสู่ยุคที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงแห่งชาติ การถอยหลังกลับคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว

สรุป: Grok AI กับยุคใหม่ของการต่อสู้ที่ไร้พรมแดน

สัญญา 200 ล้านดอลลาร์กับเพนตากอนคือการตอกย้ำว่า Grok AI ไม่ได้เป็นแค่ของเล่นในโลกโซเชียลอีกต่อไป แต่เป็นกำลังสำคัญในยุคสงครามข้อมูลและความมั่นคงสมัยใหม่ โลกต้องจับตาดูว่านี่จะเป็นก้าวแรกของความร่วมมือที่พลิกโฉมกองทัพสหรัฐฯ หรือเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะจากการใช้ AI ในทางที่ผิด

ติดตาม ข่าวกระแสมาแรง ที่ ข่าวการค้นหาที่มาแรงบ้านกีฬา แล้วคุณจะไม่พลาดทุกเรื่องราวร้อนแรงก่อนใคร

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา