พาลเมอร์ผงาด! เอ็นรีเก้ฝันสลาย 5 ประเด็นเดือด เชลซีถล่มเปแอสเช ซิวแชมป์สโมสรโลกสุดมันส์

ดูบอลสด ดูบอลออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

บทสรุปสุดเดือดของเวทีลูกหนังโลกเมื่อ เชลซี ระเบิดฟอร์มโหดถล่มยับ เปแอสเช ของ หลุยส์ เอ็นรีเก้ แบบสิ้นสภาพ 3-0 คว้าแชมป์ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 เป็นสมัยที่ 2 พร้อมซิวเงินรางวัลกว่า 4,100 ล้านบาท ในค่ำคืนที่ดาวเด่นอย่าง โคล พาลเมอร์ เหมา 2 จ่าย 1 สร้างสถิติใหม่เพียบ ขณะที่กุนซือเลือดกระทิงต้องฝันสลายพลาดโอกาสสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ 5 รายการในฤดูกาลเดียวไปอย่างเจ็บปวด บ้านกีฬา ขอสรุป 5 ประเด็นสุดเดือดจากแมตช์ชิงดำแห่งปีให้แฟนบอลได้อินตามกันแบบละเอียด

1. สิงห์บลูส์จัดเต็ม ไกเซโด้ฟิตทันลงตัวจริง

ก่อนเกมข่าวใหญ่ของฝั่งเชลซีคือ มอยเซส ไกเซโด้ กองกลางจอมทัพหายเจ็บทันเวลาลงเป็นตัวจริงในแดนกลาง ขณะที่ ชูเอา เปโดร หัวหอกบราซิลฟอร์มแรงยังได้ออกสตาร์ตหลังประเดิมนัดแรกซัดสองเม็ดในรอบรองฯ ด้าน เอ็นโซ่ มาเรสก้า ปรับแค่สองตำแหน่งจากเกมชนะฟลูมิเนนเซ่ 2-0 ให้ ลีวาย โคลวิลล์ และ รีซ เจมส์ ยืนแนวรับแทน โทซิน กับ เอ็นกุนกู เรียกว่าเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า “ใส่เต็ม” เพื่อถ้วยนี้จริงๆ

2. เปแอสเชยึดชุดเดิมแต่ไร้สองแนวรับหลัก

ทางฝั่งเปแอสเชของเอ็นรีเก้ยังคงมั่นใจใน 11 ตัวจริงชุดถล่มมาดริด 4-0 แต่ปัญหาคือพวกเขายังขาดสองกองหลังคนสำคัญอย่าง ลูกาส์ แอร์กน็องเดซ และ วิลเลี่ยน ปาโช่ ที่ติดโทษแบนจากรอบก่อนหน้า แม้กัปตัน มาร์กินญอส จะลงมาประคองเกมรับในแมตช์ที่ 22 ของตัวเองในฤดูกาลนี้ แต่มันไม่เพียงพอจะต้านความดุดันของเชลซีในคืนนี้

3. พาลเมอร์ร้อนฉ่า เปแอสเชหนาวหนัก

เชลซีออกสตาร์ตเกมแบบไม่แคร์ศักดิ์ศรีแชมป์ยุโรป บุกเข้าใส่ทันทีและเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงแรก โคล พาลเมอร์ ก็โชว์คลาสซัดสองประตูรวดนาทีที่ 22 และ 30 จากการเข้าทำทางฝั่งขวาที่หวือหวา โดยมีมาโล่ กุสโต้ ช่วยเซตจังหวะสวยๆ ส่วนลูกที่สามมาจากเปโดรที่วิ่งทะลุรับบอลแทงจากพาลเมอร์ตักข้ามตัวดอนนารุมม่าสวยงาม พาทีมหนีห่าง 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก พาลเมอร์วัยเพียง 23 ปีกลายเป็นแข้งเชลซีอายุน้อยที่สุดอันดับสองที่ยิงในนัดชิงรายการใหญ่รองจากฮาแวร์ตซ์ และยังเป็นคนแรกที่ยิงใส่เปแอสเชในยุคเอ็นรีเก้สองลูกในครึ่งแรก สถิติระดับตำนานไม่แพ้ชื่อเขาเลย

แม้สถิติครองบอลในครึ่งแรกเปแอสเชจะเหนือกว่า 69.7% ต่อ 30.3% แต่ไร้พิษสงยิงแค่ 2 ครั้ง ขณะที่เชลซีโต้กลับคมกริบ ยิง 6 ครั้งเข้ากรอบ 3 และเป็น 3 ประตูเต็มๆ

4. เก่งเล็กโค่นเก่งใหญ่

ครึ่งหลังเปแอสเชแก้เกมกลับมาคุมบอลได้ดีกว่า แต่ก็ไม่สามารถเจาะแนวรับเชลซีที่มีโรเบิร์ต ซานเชซป้องกันประตูได้เหนียวแน่น แม้จะได้ยิงรวม 8 ครั้งเข้ากรอบถึง 6 แต่ก็ไร้สกอร์ ขณะที่เชลซียังสวนได้ลุ้นเป็นระยะ จบเกมด้วยสกอร์เดิม 3-0 เป็นชัยชนะที่โค่นยักษ์ใหญ่อย่างแท้จริง และยังเป็นแชมป์สโมสรโลกสมัยที่สองของเชลซีต่อจากปี 2021 ย้ำแค้นเปแอสเชในเวทียุโรปด้วยสถิติชนะเท่ากัน 3 นัดจากการเจอกัน 9 ครั้งในประวัติศาสตร์

5. ฝันค้างของเอ็นรีเก้

ก่อนเกมหลายฝ่ายต่างเชื่อว่าซีซั่นนี้จะเป็นฤดูกาลประวัติศาสตร์ของเปแอสเช เพราะเอ็นรีเก้พาทีมกวาดแชมป์ไปแล้ว 4 รายการทั้ง ลีก เอิง, เฟร้นช์ คัพ, โทรเฟ่ เดส์ ช็องปิยงส์ และ แชมเปี้ยนส์ลีก หากได้ถ้วยนี้อีกจะเป็นแชมป์ 5 รายการรวดในปีเดียวอย่างยิ่งใหญ่ ทว่าเชลซีมาหักปากกาเซียนด้วยฟอร์มสุดแกร่ง ทำให้เขาต้องฝันค้างไปอย่างน่าเสียดาย และเป็นบทเรียนว่าในฟุตบอล เกมรอบชิงไม่มีคำว่า “ง่าย” สำหรับใครทั้งนั้น

ค่ำคืนนี้ เชลซีคือผู้ครองโลก ส่วนเปแอสเชต้องกลับไปแก้มือใหม่ในฤดูกาลหน้า

ติดตามข่าวร้อนวงการลูกหนัง ข่าวเดือดทุกมุมสนามแบบจุใจต่อได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา

ตรวจหวย 24 ชั่วโมง หวยลาว หวยฮานอย

แอดไลน์ @Bankeela รับลิ้งดูบอล ทีเด็ด วิเคราะห์บอลจากทางบ้านกีฬา