
กลายเป็นหนึ่งในเรื่องราวมหัศจรรย์แห่งวงการลูกหนังอิตาลีไปแล้ว สำหรับ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ มิดฟิลด์ทีมชาติสกอตแลนด์ ที่ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาร่วมทัพ นาโปลี ในฤดูกาล 2024/2025 ก่อนจะระเบิดฟอร์มสุดโหดพาทีมคว้า แชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้อย่างยิ่งใหญ่ พร้อมคว้ารางวัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของลีกอิตาลี ตอกย้ำความสุดยอดของการแจ้งเกิดบนเวทีลูกหนังแดนมะกะโรนีแบบเต็มตัว
แม็คโทมิเนย์ย้ายสู่ถิ่น ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า สตาดิโอน ภายใต้การคุมทัพของ อันโตนิโอ คอนเต้ ด้วยค่าตัวเพียง 30 ล้านยูโร หรือราว 1,170 ล้านบาท ซึ่งในตอนนั้นหลายฝ่ายมองว่าอาจเป็นการย้ายทีมเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเกินกว่าคำว่าคุ้มค่า เพราะเขากลายเป็นขุนพลหลักที่ทำผลงานยอดเยี่ยม ยิงไปถึง 11 ประตู และทำอีก 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 33 นัดในลีก ช่วยพา นาโปลี ผงาดเป็นแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ได้อย่างสง่างาม
จุดไคลแม็กซ์ของฤดูกาลเกิดขึ้นในเกมนัดรองสุดท้ายที่ นาโปลี เปิดบ้านถล่ม กายารี่ 2-0 ซึ่งแม็คโทมิเนย์รับบทพระเอกอีกครั้งด้วยการซัดประตูสุดสวยท่ามกลางเสียงเฮสนั่นจากแฟนบอลทั่วสนาม พร้อมปิดบัญชีการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในชีวิตนักเตะวัย 27 ปี และยังเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในนามทีมชาติสกอตแลนด์ร่วมกับ บิลลี่ กิลมอร์ ที่คว้าแชมป์ลีกอิตาลีได้เป็นครั้งแรกในรอบ 120 ปี
หลังเกมจบ แม็คโทมิเนย์เปิดใจกับสื่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งว่า “ผมพูดไม่ออกจริง ๆ มันน่าเหลือเชื่อมาก ๆ การได้แชมป์ลีกสูงสุดในฤดูกาลแรกของผมกับนาโปลีคือสิ่งที่ยิ่งกว่าฝัน นี่คือผลของความเสียสละของนักเตะทุกคน เราร่วมแรงร่วมใจกันมาตลอด และไม่มีใครสมควรได้รับความสำเร็จนี้มากไปกว่าทีมชุดนี้”
“ตั้งแต่วันแรกที่ผมย้ายมา ทุกคนให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี และการได้เป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศอันยิ่งใหญ่นี้ มันเกินกว่าที่ผมเคยจินตนาการไว้ สำหรับประตูที่ผมยิงได้ในเกมกับ กายารี่ ผมแทบจะลืมมันไปเลยด้วยซ้ำ เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันล้นทะลักออกมาจริง ๆ”
แม็คโทมิเนย์ยังกล่าวต่อด้วยความมั่นใจว่า “แม้จะมีความกดดัน มีความประหม่าในช่วงต้นเกม แต่พวกเราก็แสดงให้เห็นว่าเรามีหัวใจของผู้ชนะ และในฤดูกาลหน้า ผมรับปากได้เลยว่าเราจะกลับมาพร้อมความกระหายมากกว่าเดิม ไม่มีอะไรลดลงแน่นอน เราจะสู้เพื่อป้องกันแชมป์ และไล่ล่าความสำเร็จในเวทียุโรป”
จากแข้งที่ถูกมองข้ามในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด วันนี้แม็คโทมิเนย์ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาคือมิดฟิลด์ระดับแชมป์ของจริง การย้ายมานาโปลีคือการเปิดฉากบทใหม่ในชีวิตที่เต็มไปด้วยแสงสว่าง และฤดูกาลนี้อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นของยุคทองคนใหม่ในศึกเซเรีย อา
ติดตามข่าว ฟุตบอลต่างประเทศ และฟอร์มร้อนแรงของแข้งดังจากทุกลีก ได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา