ฮันซี่ ฟลิค กุนซือจอมแท็กติกของ บาร์เซโลน่า ออกมาเปิดใจอย่างไม่ปิดบัง หลังพาทีมพ่ายคารังต่อ บียาร์เรอัล 2-3 ในเกมลีกนัดล่าสุด พร้อมยืนยันเสียงแข็งว่าไม่รู้สึกเครียดหรือกังวลแต่อย่างใด เพราะทีมเพิ่งผงาดคว้า 3 แชมป์ใหญ่ในฤดูกาลนี้ แถมยังชื่นชมแฟนบอล “อาซูลกราน่า” ว่าฉลองแชมป์กันอย่างดุเดือดยิ่งกว่าตอนที่เขาเคยคุม บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ในเยอรมนีเสียอีก
หลังจากคว้า แชมป์ลาลีกา อย่างเป็นทางการเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา บาร์เซโลน่าก็ไม่รอช้า จัดขบวนพาเหรดฉลองแชมป์แบบจัดหนักจัดเต็มทั่วเมือง โดยฤดูกาลนี้ลูกทีมของฟลิคทำผลงานได้สุดยอด คว้าทริปเปิลแชมป์ทั้ง ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า สร้างรอยยิ้มให้กับแฟนบอลทั่วแคว้นกาตาลุญญาอย่างยิ่งใหญ่
ฟลิค กล่าวด้วยความปลื้มใจว่า “ผมเห็นหลายคนหลั่งน้ำตาแห่งความยินดี พวกเขาดีใจกับความสำเร็จของทีมอย่างแท้จริง และผมเองก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก นี่แหละคือพลังของแฟนบอลที่ทำให้เราผลักดันตัวเองให้ไปไกลกว่านี้อีก”
อดีตกุนซือของ “เสือใต้” ยังไม่ลืมเปรียบเทียบบรรยากาศการฉลองแชมป์ที่เยอรมนีกับที่สเปน โดยบอกว่า “ตอนที่ผมยืนอยู่บนรถบัสระหว่างพาเหรด มันทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาว่า…ที่นี่มันฉลองกันจริงจังและหนักหน่วงมากกว่าตอนผมอยู่เยอรมนีซะอีก แน่นอนว่าที่บาเยิร์นก็มีการฉลองเช่นกัน แต่ไม่ถึงขนาดที่มีทั้งเสียงเชียร์ เพลง ดอกไม้ไฟ และน้ำตาแบบนี้!”
สำหรับผลการแข่งขันนัดล่าสุดที่ทีมแพ้ บียาร์เรอัล 2-3 ในบ้านตัวเองเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม ฟลิคไม่รู้สึกเสียใจกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้แม้แต่น้อย เขาชี้ว่าบรรยากาศยังเต็มไปด้วยพลังของการเฉลิมฉลอง และผู้เล่นหลายคนยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการปลดปล่อยอารมณ์อันหนักหน่วง
“ผมไม่ซีเรียสกับผลการแข่งขันเลย วันนี้มันคือวันแห่งการฉลอง เราได้แชมป์ไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี จากนั้นเราก็จัดงานฉลองในวันศุกร์เต็มรูปแบบ แน่นอนว่าผมมักพูดอยู่เสมอว่าเราไม่ควรหาข้อแก้ตัวใดๆ แต่สถานการณ์ในวันนี้มันต่างออกไป เราควรจะสนุกกับช่วงเวลาแห่งความสำเร็จนี้ให้เต็มที่ก่อน แล้วค่อยโฟกัสการเตรียมทีมในฤดูกาลถัดไป” ฟลิค กล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
สำหรับอนาคตของบาร์เซโลน่า ภายใต้การนำของฟลิค ดูเหมือนว่ายังเต็มไปด้วยความหวังและความคาดหวังของแฟนบอลทั่วโลก โดยเจ้าตัวระบุชัดเจนว่าภารกิจต่อจากนี้คือการสร้างทีมให้แข็งแกร่งขึ้นอีกระดับ และเดินหน้าป้องกันแชมป์ในทุกรายการที่พวกเขามีโอกาสลงแข่งขันในซีซั่นหน้า
ติดตามทุกความเคลื่อนไหววงการฟุตบอลระดับโลกได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
