กลายเป็นประเด็นร้อนแรงที่เขย่าวงการพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง เมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกคนสำคัญของ ลิเวอร์พูล ออกมาเปิดปากแบบไม่มีกั๊กว่า “มีที่ว่างเสมอ” สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ หากตัดสินใจอำลา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังหมดสัญญาในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเฉพาะการพูดประโยคนี้ต่อหน้าตำนานแมนยูอย่าง แกรี่ เนวิลล์ ยิ่งเติมไฟให้สถานการณ์ร้อนแรงขึ้นอีกระดับ
คำพูดดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports ซึ่งซาลาห์กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาเคารพผลงานอันยิ่งใหญ่ของเดอ บรอยน์ที่ทำไว้กับแมนฯ ซิตี้ และยินดีอย่างยิ่งหากเพลย์เมกเกอร์ชาวเบลเยียมจะเลือกย้ายมาร่วมทัพหงส์แดงในถิ่นแอนฟิลด์
“ผมอยากแสดงความยินดีกับเขา เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคของเรา สิ่งที่เขาทำไว้กับแมนฯ ซิตี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มันน่าเหลือเชื่อมาก และผมขออวยพรให้เขาโชคดีในทุกย่างก้าว…แน่นอน เรามีที่ว่างให้เขาเสมอ” ซาลาห์ระบุ พร้อมส่งยิ้มอย่างมีนัย
โดยประโยคดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่เขานั่งอยู่กับ แกรี่ เนวิลล์ อดีตแบ็กขวาผู้จงรักภักดีต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งยิ่งทำให้บรรยากาศของบทสัมภาษณ์เต็มไปด้วยรสชาติเข้มข้นและแฝงความแสบสันแบบมีชั้นเชิง
เควิน เดอ บรอยน์ กำลังจะหมดสัญญากับแมนฯ ซิตี้ หลังรับใช้สโมสรมาอย่างยาวนานถึง 10 ปีเต็ม โดยเจ้าตัวลงสนามให้ “เรือใบสีฟ้า” ไปแล้ว 419 นัด ทำไป 108 ประตู และจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้มากถึง 177 แอสซิสต์ สร้างชื่อในฐานะหนึ่งในกองกลางที่ครบเครื่องที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน
ตลอดเส้นทางในสีเสื้อซิตี้ เดอ บรอยน์กวาดแชมป์มาอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย, อีเอฟแอล คัพ 5 สมัย และไฮไลต์สำคัญอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ที่ถือเป็นเกียรติยศสูงสุดในระดับสโมสร
กระแสข่าวล่าสุดชี้ว่า ลิเวอร์พูล อาจกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับกัปตันทีมชาติเบลเยียมวัย 33 ปีรายนี้ หากเจ้าตัวไม่ต่อสัญญากับแมนฯ ซิตี้ ซึ่งการที่ซาลาห์ออกมาพูดเปิดทางเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้แฟนบอลเดอะค็อปทั่วโลกต้องตาลุกวาว
การได้เห็นสองยอดแข้งอย่าง ซาลาห์ และ เดอ บรอยน์ ประสานงานกันในแดนหน้าอาจเป็นสิ่งที่ยากจะจินตนาการสำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูลในอดีต แต่เวลานี้ความฝันนั้นอาจเริ่มใกล้เป็นความจริง หากตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้พลิกเกมเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วนับไม่ถ้วนในโลกฟุตบอล
แฟนบอลเดอะค็อปเตรียมรอลุ้นได้เลยว่า การย้ายทีมครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นหรือไม่ และหากเดอ บรอยน์เปลี่ยนสีน้ำเงินเรือใบมาใส่เสื้อสีแดงเพลิง มันอาจกลายเป็นหนึ่งในการย้ายทีมที่สั่นสะเทือนวงการลูกหนังอังกฤษครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวแบบเจาะลึกก่อนใครได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
