
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2025 ระหว่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ลิเวอร์พูล วันนี้ 20/4/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก 2025 ค่ำคืนที่ผ่านมา แฟนๆ ที่ติดตาม ผลบอลสด กับ บ้านผลบอล ได้ลุ้นกันมันส์หยด เมื่อ ลิเวอร์พูล บุกไปเฉือนเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ แบบหืดขึ้นคอ 1-0 ที่สนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม แม้รูปเกมโดยรวมจะเป็นฝ่ายคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด แต่กว่าจะเบิกสกอร์ได้ก็ต้องรอจนถึงช่วงท้ายเกม
ครึ่งแรก เกมเริ่มต้นด้วยการที่ลิเวอร์พูลบุกกดดันใส่เจ้าบ้านตั้งแต่ต้น พวกเขาครองบอลได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน และสร้างโอกาสเข้าทำได้หลายต่อหลายครั้ง แต่แนวรับของเลสเตอร์ที่นำโดย มัดส์ เฮอร์มันเซ่น โชว์ซูเปอร์เซฟหลายจังหวะช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตูหลายหน ขณะที่เลสเตอร์เองแทบไม่มีโอกาสยิงตอบโต้เลย จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลเดินเครื่องเต็มสูบ บุกกระหน่ำอย่างหนักจนเลสเตอร์ตั้งตัวแทบไม่ทัน จังหวะการทำเกมริมเส้นทั้งฝั่งซ้ายขวาสร้างปัญหาให้เจ้าถิ่นอย่างต่อเนื่อง และในที่สุดความพยายามก็เป็นผล นาทีที่ 76 เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ซัดฟรีคิกสุดคมเบียดเสาเข้าไปตุงตาข่าย ส่งหงส์แดงขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นแม้เลสเตอร์จะพยายามตอบโต้บ้าง แต่โอกาสมีน้อยเกินไป จบเกมลิเวอร์พูลบุกเก็บสามแต้มสำคัญกลับบ้านได้แบบหืดขึ้นคอ
รายชื่อนักเตะตัวจริง นักเตะโดดเด่น และการเปลี่ยนตัว
เลสเตอร์ ซิตี้ (ระบบ 4-2-3-1)
- ผู้รักษาประตู: มัดส์ เฮอร์มันเซ่น
- กองหลัง: ลุค โธมัส, เวาต์ ฟาเอส, คอเนอร์ โคอาดี้, ริคาร์โด เปเรย์รา
- กองกลางตัวรับ: วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บูบาการี่ ซูมาเร่
- ตัวรุก: สเตฟี่ มาวิดิดี้, บิลาล เอล คันนุส, บ็อบบี้ รีด
- กองหน้า: เจมี วาร์ดี้ (กัปตัน)
นักเตะโดดเด่น: มัดส์ เฮอร์มันเซ่น (เรตติ้ง 7.9), ลุค โธมัส (เรตติ้ง 7.6)
การเปลี่ยนตัว:
- ฟาคุนโด บัวโน่นอตเต้ แทน บ็อบบี้ รีด (61’)
- พัตสัน ดาก้า แทน เจมี วาร์ดี้ (62’)
- เจมส์ จัสติน แทน ริคาร์โด เปเรย์รา (83’)
- โอลิเวอร์ สคิปป์ แทน วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ (83%)
- เจเรมี มองกา แทน สเตฟี่ มาวิดิดี้ (85’)
ลิเวอร์พูล (ระบบ 4-2-3-1)
- ผู้รักษาประตู: อลีสซง เบ็คเกอร์
- กองหลัง: คอนเนอร์ แบรดลีย์, อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (กัปตัน), คอสตาส ซิมิกาส
- กองกลางตัวรับ: อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, ไรอัน กราเวนเบิร์ช
- ตัวรุก: โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, หลุยส์ ดิอาซ
- กองหน้า: โคดี กัคโป
นักเตะโดดเด่น: เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค (เรตติ้ง 8.0), หลุยส์ ดิอาซ (เรตติ้ง 7.8)
การเปลี่ยนตัว:
- ดิโอโก้ โชต้า แทน โคดี กัคโป (60’)
- เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แทน คอนเนอร์ แบรดลีย์ (71’)
- ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ แทน โดมินิค โซบอสซ์ไล (71’)
- เคอร์ติส โจนส์ แทน หลุยส์ ดิอาซ (90’)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
หาก วิเคราะห์บอล เกมนี้ ต้องบอกว่าลิเวอร์พูลโชว์คลาสของทีมลุ้นแชมป์ได้อย่างชัดเจน ด้วยแผน 4-2-3-1 ที่เน้นครองบอลบุกใส่เลสเตอร์อย่างต่อเนื่อง มีการสร้างสรรค์เกมรุกจากริมเส้นที่อันตรายมาก โดยเฉพาะฝั่งของหลุยส์ ดิอาซ ที่เล่นได้โดดเด่นสุดๆ ตรงกันข้าม เลสเตอร์ ซิตี้ มาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน แต่เน้นตั้งรับลึก อาศัยการบีบพื้นที่และรอโอกาสสวนกลับอย่างเดียว แต่ปัญหาคือเกมสวนกลับของพวกเขาไร้ประสิทธิภาพจนไม่สามารถสร้างอันตรายได้จริงๆ แถมการครองบอลก็เป็นรองอย่างเห็นได้ชัดตลอดทั้งเกม
สถิติการแข่งขัน
ตลอด 90 นาที ลิเวอร์พูลครองบอลได้ถึง 59% ต่อ 41% ของเลสเตอร์ ซิตี้ โดยหงส์แดงต่อบอลทั้งหมด 503 ครั้ง มีความแม่นยำ 86% ขณะที่เลสเตอร์ต่อบอลได้ 367 ครั้ง ด้วยความแม่นยำ 77% ด้านโอกาสยิง ลิเวอร์พูลสร้างโอกาสได้ถึง 28 ครั้ง และยิงตรงกรอบ 10 ครั้ง ขณะที่เลสเตอร์ยิงเพียง 5 ครั้ง และไม่มีแม้แต่ลูกเดียวที่ตรงกรอบ นอกจากนี้ ลิเวอร์พูลยังได้ลูกเตะมุมถึง 13 ครั้ง ขณะที่เลสเตอร์ได้เพียง 1 ครั้ง และเกมนี้มีใบเหลืองทั้งหมด 3 ใบ แบ่งเป็น เลสเตอร์ 1 ใบ ลิเวอร์พูล 2 ใบ
เหตุการณ์สำคัญ
🔄 60’ ลิเวอร์พูลเปลี่ยน ดิโอโก้ โชต้า ลงแทน โคดี กัคโป
🔄 61’ เลสเตอร์เปลี่ยน ฟาคุนโด บัวโน่นอตเต้ ลงแทน บ็อบบี้ รีด
🔄 62’ เลสเตอร์เปลี่ยน พัตสัน ดาก้า ลงแทน เจมี วาร์ดี้
🟨 65’ คอนเนอร์ แบรดลีย์ (ลิเวอร์พูล) โดนใบเหลือง
🟨 70’ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ (เลสเตอร์) โดนใบเหลือง
🔄 71’ ลิเวอร์พูลเปลี่ยน เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ลงสนาม
⚽ 76’ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ยิงฟรีคิกสุดงามให้ลิเวอร์พูลนำ 0-1
🟨 77’ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล) โดนใบเหลือง
🔄 83’ เลสเตอร์เปลี่ยน เจมส์ จัสติน และ โอลิเวอร์ สคิปป์ ลงสนาม
🔄 85’ เลสเตอร์ส่ง เจเรมี มองกา ลงสนาม
🔄 90’ ลิเวอร์พูลส่ง เคอร์ติส โจนส์ ลงสนามแทน หลุยส์ ดิอาซ
Player of the match
เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันลิเวอร์พูล ขึ้นแท่นเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเกมนี้ ด้วยผลงานการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม สกัดบอลสำคัญหลายครั้ง พร้อมสร้างความมั่นใจให้แนวรับหงส์แดงจนเก็บคลีนชีตได้สำเร็จ คว้าเรตติ้งสูงสุดของเกมที่ 8.0
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ลิเวอร์พูลเก็บเพิ่มเป็น 79 แต้ม นำจ่าฝูงต่อไปอย่างมั่นคงในศึก พรีเมียร์ลีก 2025 ขณะที่เลสเตอร์ ซิตี้ ยังคงจมปลักอยู่ในโซนตกชั้น อันดับ 19 มีเพียง 18 แต้มจาก 33 นัด สถานการณ์เข้าขั้นโคม่าเต็มตัว
การแข่งขันนัดถัดไป
เลสเตอร์ ซิตี้ที่แพ้มาติด ๆ กันหลายนัด ยังไม่หมดความหวังในการหนีตกชั้น โดยโปรแกรมนัดต่อไป พวกเขาต้องบุกเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน วันที่ 26 เมษายนนี้ เวลา 21:00 น. ต่อด้วยเกมเปิดบ้านพบ เซาแธมป์ตัน วันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 21:00 น. สองนัดนี้คือหัวใจสำคัญของฤดูกาล ดูโปรแกรมที่ต้องชี้ชะตาได้ใน ตารางบอล
ลิเวอร์พูลที่กำลังอยู่ในช่วงเรียกฟอร์มเก่ง กลับมาลุ้นจบท็อปโฟร์อย่างเต็มตัว จะเปิดบ้านพบ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในวันที่ 27 เมษายน เวลา 22:30 น. ก่อนจะเจอศึกหนักเยือน เชลซี วันที่ 4 พฤษภาคม เวลา 22:30 น. หงส์แดงจำเป็นต้องรักษาความสม่ำเสมอทุกนัดจากนี้ไป ติดตามโปรแกรมทั้งหมดใน ตารางบอล
ติดตาม ผลบอลสด บ้านผลบอล ต้องที่ บ้านกีฬา เท่านั้น!
แฟนบอลตัวจริงต้องไม่พลาด ติดตาม ผลบอลสด และอัปเดต บ้านผลบอล ครบทุกคู่ ครบทุกลีก ได้ที่ บ้านกีฬา พร้อมเสิร์ฟทุกประตูสำคัญทันทีที่เกิดขึ้น!