เสียงเฮสนั่นกึกก้องไปทั่วแอนฟิลด์ เมื่อ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจขยายสัญญาฉบับใหม่ออกไปจนถึงปี 2027 สร้างความปลื้มปิติให้กับแฟนบอลทั่วโลกอย่างล้นหลาม นี่คือสัญญาณชัดเจนว่าชายผู้เป็นกระดูกสันหลังแนวรับของ “หงส์แดง” พร้อมที่จะนำทัพไล่ล่าความสำเร็จอีกครั้งในช่วงปีทองของเขา
การต่อสัญญาของ ฟาน ไดค์ เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซูเปอร์สตาร์อียิปต์ ประกาศฝากอนาคตกับลิเวอร์พูลอีกสองปี สองเสาหลักที่พาทีมคว้าเกียรติยศนับไม่ถ้วนกำลังจับมือกันนำพาสโมสรเดินหน้าต่อไปในเส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่
นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทัพจากเซาแธมป์ตันในเดือนมกราคมปี 2018 ด้วยค่าตัวระดับสถิติโลกในตำแหน่งกองหลัง ฟาน ไดค์ พิสูจน์ตัวเองอย่างไร้ข้อกังขา ด้วยผลงานสุดแข็งแกร่งที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลกวาดแชมป์ระดับเมเจอร์ถึง 7 รายการ ลงสนามรับใช้สโมสรมากกว่า 300 นัด และก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน
หลังบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่ กัปตันทีมเบอร์ 4 เปิดใจผ่าน Liverpoolfc.com ด้วยอารมณ์ที่เปี่ยมไปด้วยความตื้นตันใจ เขากล่าวว่า “นี่คือครอบครัวของผม” และย้ำว่าในหัวใจของเขามีแค่ ลิเวอร์พูล เท่านั้น ไม่เคยมีความลังเลเลยว่าสโมสรแห่งนี้คือบ้านที่แท้จริงสำหรับตัวเขาและครอบครัว
ฟาน ไดค์ บรรยายความรู้สึกถึงความภาคภูมิใจที่ได้ขยายสัญญาอีก 2 ปีว่าเป็นเหมือนความฝันที่เป็นจริง การได้เล่นที่แอนฟิลด์ ได้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองลิเวอร์พูล และได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมคือเกียรติสูงสุดในชีวิตการค้าแข้ง เขากล่าวด้วยความซาบซึ้งว่า “ทุกครั้งที่พูดถึงการเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูล มันทำให้ผมขนลุก นี่คือเกียรติที่ไม่มีอะไรมาเทียบได้”
ฟาน ไดค์ ยังเน้นย้ำว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของทั้งครอบครัว ลูกๆ ของเขาเติบโตในเมืองลิเวอร์พูลจนกลายเป็น “สเกาเซอร์ตัวน้อย” และภรรยาของเขาก็มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการตัดสินใจครั้งสำคัญนี้
สำหรับเป้าหมายในอนาคต ฟาน ไดค์ ยืนยันว่าแรงกระหายในการคว้าแชมป์ยังคงลุกโชนเหมือนวันแรกที่เหยียบย่างเข้าสู่แอนฟิลด์ เขาย้ำหนักแน่นว่า “ผมเป็นผู้ชนะ และผมอยากชนะทุกเกมที่ลงสนาม” โดยตั้งเป้านำลิเวอร์พูลไล่ล่าเกียรติยศให้มากยิ่งขึ้นในช่วงสองปีข้างหน้า ทั้งในพรีเมียร์ลีก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และทุกรายการที่สโมสรมีส่วนร่วม
เขาไม่ลืมพูดถึงความพิเศษของ แอนฟิลด์ และแฟนบอล เดอะ ค็อป ที่เปรียบเสมือนแรงขับเคลื่อนสำคัญ “ทุกครั้งที่ก้าวลงสนามพร้อมเสียงเชียร์จากแฟนบอล มันคือแรงผลักดันมหาศาลที่ไม่มีที่ไหนในโลกนี้เทียบได้”
นอกจากนี้ ฟาน ไดค์ ยังตั้งเป้าอยากเห็น แอนฟิลด์ กลายเป็นทะเลสีแดงในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล เพื่อผลักดันทีมไปสู่ความสำเร็จ และหวังว่าจะมีโอกาสได้ฉลองแชมป์กับแฟนๆ อย่างเต็มที่ในเร็วๆ นี้ “จงแต่งตัวด้วยสีแดงและส่งเสียงเชียร์ให้ดังที่สุดเท่าที่ทำได้” เขากระตุ้นแฟนบอลด้วยความมุ่งมั่น
ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมา การรับมือกับความคาดหวัง และความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ฟาน ไดค์ พร้อมแล้วที่จะพาลิเวอร์พูลเขียนประวัติศาสตร์บทใหม่ภายใต้เสื้อหมายเลข 4 พร้อมความรักที่เขามีให้กับสโมสรแห่งนี้อย่างหมดหัวใจ
แฟนหงส์ทั่วโลกเตรียมตัวให้ดี เพราะนี่คือยุคทองอีกครั้งที่กำลังจะเบ่งบานในแอนฟิลด์ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จะเป็นศูนย์กลางของทุกช่วงเวลานั้น
ติดตามทุกข่าวสารเดือดๆ และเบื้องหลังลึกๆ ของวงการฟุตบอลได้ที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา
