
ในช่วงเวลาที่ความกดดันถาโถมเข้าหาทุกฝีก้าวของฤดูกาล ไทยลีก การคว้าสามแต้มไม่ใช่แค่เรื่องของคะแนน แต่คือเรื่องของ “ชีวิต” และ “ศักดิ์ศรี” ของสโมสร ล่าสุด ระยอง เอฟซี ภายใต้การนำของ โค้ชโบ้ จักรพันธ์ ปั่นปี กุนซือเลือดนักสู้ กลับมาปลุกไฟศรัทธาได้อีกครั้ง หลังพาลูกทีมพลิกแซงดับความหวังของ นครปฐม ยูไนเต็ด 2-1 เก็บสามคะแนนทองคำ พร้อมพาตัวเองพ้นโซนตกชั้นในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
เกมนี้ลงสนามเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา และเป็นแมตช์ที่เต็มไปด้วยความกดดัน เพราะทั้งสองทีมต่างต้องการแต้มเพื่อความอยู่รอดในลีกสูงสุดของประเทศ ทว่าเป็นทางฝั่ง “ม้านิลมังกร” ที่งัดฟอร์มเด็ด พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลังกลับมาแซงชนะอย่างเหลือเชื่อ ส่งผลให้ทีมขยับขึ้นสู่อันดับ 13 ของตาราง มี 29 คะแนน จาก 28 นัด แซงหน้าคู่แข่งอย่าง หนองบัว พิชญ เอฟซี ที่ยังจมอยู่ในอันดับ 14 ด้วยแต้มตามหลัง 2 คะแนน ซึ่งถือเป็นโซนอันตรายของการตกชั้นอย่างแท้จริง
โค้ชโบ้ ให้สัมภาษณ์หลังเกมอย่างเข้มข้นว่า “ชัยชนะในนัดนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของฤดูกาล มันไม่ใช่แค่เรื่องของคะแนน แต่คือการปลดล็อกด้านจิตใจของทั้งทีม เรารู้ดีว่าทุกแต้มตอนนี้มีความหมาย ทุกคนในทีมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเอาตัวรอด และผมเชื่อว่าเรายังมีโอกาส”
กุนซือมากประสบการณ์รายนี้ยังกล่าวถึงสองเกมสุดท้ายของฤดูกาลด้วยความมั่นใจว่า หากลูกทีมรักษามาตรฐานนี้เอาไว้ได้ ระยอง เอฟซี จะอยู่รอดใน ไทยลีก ได้แน่นอน “โปรแกรมที่เหลือเราจะเล่นในบ้านพบ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ซึ่งตอนนี้ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว นั่นคือโอกาสของเรา ส่วนแมตช์สุดท้ายจะออกไปเยือน การท่าเรือ เอฟซี แม้จะเป็นเกมยาก แต่หากเราสามารถเก็บได้ 4 แต้มจากสองเกมสุดท้าย ผมมั่นใจว่าเราจะรอดตกชั้นอย่างแน่นอน”
สำหรับโปรแกรม 2 นัดสุดท้ายของ ระยอง เอฟซี ที่จะชี้ชะตาอนาคตบนลีกสูงสุด พวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ขอนแก่น ยูไนเต็ด และจากนั้นจะออกไปเยือน การท่าเรือ เอฟซี ซึ่งทั้งสองเกมนี้จะเป็นบททดสอบสำคัญของทีมว่าจะมีดีพอที่จะรอดหรือไม่
ศึกหนีตายในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลมักเต็มไปด้วยดราม่า และการต่อสู้สุดระห่ำ ระยอง เอฟซี ยังไม่หมดหวัง และถ้าเกมกับนครปฐมคือจุดเปลี่ยนจริง ทุกอย่างอาจพลิกผันได้ในชั่วพริบตา
ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของศึก ไทยลีก และสถานการณ์หนีตายของ ระยอง เอฟซี ได้ที่ ข่าวบอลไทยบ้านกีฬา ที่เดียวที่ให้คุณรู้ก่อนใคร