แมตช์มันส์แห่งค่ำคืนในศึก อีเอฟแอล แชมเปียนชิป 2025 จบลงแบบสุดระทึกเมื่อ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เปิดบ้านไล่ตามตีเสมอ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ 2-2 จากสองประตูในครึ่งหลังที่เปลี่ยนเกมโดยสิ้นเชิง ใครที่ติดตาม ผลบอลสด คู่นี้คงนั่งไม่ติดเก้าอี้ เพราะเกมเปิดหน้าสู้กันตลอด 90 นาที ก่อนจบแบบแบ่งแต้มที่ทำให้ทั้งสองทีมยังต้องลุ้นเหนื่อยในโค้งสุดท้ายของฤดูกาล
เกมในครึ่งแรก
เริ่มต้นด้วยความมุ่งมั่นจากฝั่งทีมเยือนอย่างเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ที่ไม่กลัวเสียงเชียร์ในถิ่นอีวู้ด พาร์ค พวกเขาบุกใส่เจ้าถิ่นตั้งแต่ต้นเกม และมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วในนาทีที่ 16 จาก ยาน วาเลรี ก่อนที่ เจได กาสซามา จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 ในนาทีที่ 38 จากจังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงเน้น ๆ ส่งให้แฟนบอลเจ้าบ้านเงียบกริบในช่วงพักครึ่ง
แต่แล้วครึ่งหลัง
แบล็คเบิร์น กลับมาด้วยพลังที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง พวกเขาโหมบุกอย่างหนัก และมาได้ประตูไล่คืนจาก ทายรีส โดแลน ในนาทีที่ 51 หลังประสานงานกับ ท็อดด์ แคนท์เวลล์ ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ ยูคิ โอฮาชิ จะมายิงตีเสมอในนาทีที่ 85 แบบสุดมันส์ ปลดล็อกความกดดันและแบ่งแต้มสำคัญได้สำเร็จในเกมที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความดุเดือด
รายชื่อนักเตะตัวจริงและการเปลี่ยนตัว
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: อายน์สลีย์ เพียร์ส
กองหลัง: โจ แรนกิน-คอสเตลโล, โดมินิค ไฮแอม, แดน บาธ, ยาโก้ ริเบโร
กองกลาง: ลูอิส ทราวิส (กัปตัน), ซอนเดร ทรอนด์สตัด
ตัวรุก: ร็อบบี้ เฮดจ์ส, ท็อดด์ แคนท์เวลล์, ทายรีส โดแลน
กองหน้า: ยูคิ โอฮาชิ
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลง
คริสตี มอนต์โกเมอรี่ (แทน แรนกิน-คอสเตลโล น.44)
มาคห์ตาร์ เกย์ (แทน เฮดจ์ส น.71)
เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ (5-4-1)
ผู้รักษาประตู: มาร์วิน จอห์นสัน
กองหลัง: เปโดร ชาร์ลส์, ไมเคิล อิเฮควู (กัปตัน), โอเตกบาโย, ยาน วาเลรี, พอล วาเลนติน
กองกลาง: โดดี กาสซามา, เชีย ชาร์ลส์, ซเวอิน อิงเกลส์สัน, คัลลัม แพตเตอร์สัน
กองหน้า: อันโธนี่ มูซาบา
ตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลง
อาคิน เฟมโว (แทน โอเตกบาโย น.59)
จอช วินดาส (แทน กาสซามา น.59)
ไมเคิล สมิธ (แทน แพตเตอร์สัน น.59)
สจ๊วต อาร์มสตรอง (แทน วาเลรี น.70)
โอลาฟ โคบาคกี้ (แทน มูซาบา น.75)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เกมนี้ แบล็คเบิร์น ใช้แผน 4-2-3-1 ที่เน้นการครองบอลและการขึ้นเกมจากแดนกลาง โดยมีแคนท์เวลล์และทราวิสเป็นแกนหลักในการควบคุมจังหวะ เกมรุกของพวกเขาพยายามเจาะพื้นที่ระหว่างเซ็นเตอร์กับวิงแบ็กของเชฟฟิลด์ และเมื่อครึ่งหลังเชฟฟิลด์เริ่มถอนตัวเองถอยลึก การทะลุจากแคนท์เวลล์และการลากเลื้อยของโดแลนจึงได้ผลทันตา
ด้านเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ เล่นในระบบ 5-4-1 ซึ่งให้ความสำคัญกับเกมรับแบบเต็มสูบในครึ่งหลังหลังจากนำสองประตู แม้แผนรับแน่นอนในครึ่งแรกจะได้ผลดี แต่ในครึ่งหลังเมื่อถูกบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง ความล้าของแนวรับและการเปลี่ยนตัวที่ไม่ช่วยสร้างความแตกต่างมากนักทำให้พวกเขาเสียประตูไปสองลูกในจังหวะที่ป้องกันไม่ทัน การวิเคราะห์บอลเกมนี้แสดงให้เห็นชัดว่าพวกเขาขาดมิดฟิลด์ตัดเกมตัวหลักเมื่อล้าจากการวิ่งไล่บอลมากเกินไป
สถิติการแข่งขัน
แม้สกอร์จะออกมาเสมอกัน แต่ทางฝั่งแบล็คเบิร์นครองเกมเหนือกว่าชัดเจนด้วยการครองบอลถึง 60% และมีโอกาสยิงทั้งหมด 11 ครั้ง เข้ากรอบ 5 ขณะที่เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ มีโอกาสยิงเพียง 9 ครั้ง และเข้ากรอบแค่ 3 หนเท่านั้น ด้านการผ่านบอล แบล็คเบิร์นจ่ายบอลได้มากถึง 427 ครั้ง เทียบกับ 283 ของทีมเยือน โดยมีความแม่นยำในการจ่ายบอลที่ 75% เหนือกว่าชัดเจนเมื่อเทียบกับ 67% ของเชฟฟิลด์ ส่วนการฟาวล์และใบเหลืองค่อนข้างดุเดือด โดยแบล็คเบิร์นทำฟาวล์ 10 ครั้ง ได้ใบเหลือง 3 ใบ ขณะที่เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ โดนใบเหลืองไป 4 ใบจากการฟาวล์ 11 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 16′ ยาน วาเลรี ยิงให้เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์นำ 0-1
⚽ 38′ เจได กาสซามา ยิงให้ทีมเยือนนำห่าง 0-2
🔁 44′ คริสตี มอนต์โกเมอรี่ แทน แรนกิน-คอสเตลโล
🟨 44′ พอล วาเลนติน ฟาวล์
⚽ 51′ ทายรีส โดแลน ยิงตีไข่แตกให้แบล็คเบิร์น 1-2
🟨 71′ มาคห์ตาร์ เกย์ ทำฟาวล์
🔁 71′ มาคห์ตาร์ เกย์ แทน เฮดจ์ส
🟨 71′ ซเวอิน อิงเกลส์สัน ฟาวล์
🔁 70′ สจ๊วต อาร์มสตรอง แทน วาเลรี
🔁 59′ ไมเคิล สมิธ แทน แพตเตอร์สัน
🔁 59′ จอช วินดาส แทน กาสซามา
🔁 59′ อาคิน เฟมโว แทน โอเตกบาโย
🟨 73′ เปโดร ชาร์ลส์ ปะทะเดือด
🟨 73′ ยูคิ โอฮาชิ มีปากเสียง
🔁 75′ โอลาฟ โคบาคกี้ แทน มูซาบา
⚽ 85′ ยูคิ โอฮาชิ ยิงตีเสมอ 2-2 จากแอสซิสต์ของแคนท์เวลล์
🟨 86′ จอช วินดาส ฟาวล์
Player of the Match
ท็อดด์ แคนท์เวลล์ คือหัวใจของแบล็คเบิร์นในเกมนี้ เขาคุมจังหวะเกมได้ยอดเยี่ยมและมีส่วนร่วมกับทั้งสองประตู โดยเฉพาะแอสซิสต์ในประตูตีเสมอที่จ่ายได้แม่นยำและเฉียบคม เขาได้รับคะแนนสูงสุดที่ 8.2 และได้รับการยกย่องว่าเป็นจอมทัพตัวจริงของเกมนี้จากทั้งสื่อและแฟนบอล
สถานการณ์ในตารางคะแนน
หลังเกมนี้ ทั้งสองทีมยังมีแต้มเท่ากันที่ 53 คะแนนจาก 41 นัด แต่จากผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่า ทำให้แบล็คเบิร์นขึ้นนำอยู่อันดับ 12 ส่วนเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ตามมาในอันดับ 13 ซึ่งทั้งสองทีมยังมีโอกาสลุ้นอันดับเพลย์ออฟ หากทำผลงานได้ดีในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ตารางคะแนนยังเปิดกว้างและทุกแต้มมีค่ามหาศาล
การแข่งขันนัดถัดไป
หลังเกมเสมอกันแบบเดือด 2-2 ทั้ง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ต่างก็ยังอยู่กลางตารางและต้องเร่งโกยแต้มในช่วงท้ายฤดูกาล โดยโปรแกรมถัดไปของทั้งสองทีมในศึก อีเอฟแอลแชมเปียนชิป 2025 ยังคงดุเดือดไม่แพ้กัน
เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ มีคิวเปิดบ้านรับมือ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด วันที่ 12 เมษายน เวลา 21:00 น. ส่วนทางฝั่ง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ต้องยกพลบุกเยือนถิ่น ลูตัน ทาวน์ ในวันเดียวกันและเวลาเดียวกัน ซึ่งผลของทั้งสองเกมอาจส่งผลต่อการลุ้นพื้นที่เพลย์ออฟโดยตรง อย่าพลาดติดตามโปรแกรม ตารางบอล และอัปเดตผลการแข่งขันทุกค่ำคืนได้ทาง บ้านกีฬา
ติดตามผลบอลสด บ้านผลบอล ได้ที่ บ้านกีฬา
แฟนบอลชาวไทยที่อยากเกาะติดทุกจังหวะของแชมเปียนชิป อังกฤษ ไม่ควรพลาด ผลบอลสด และข้อมูล บ้านผลบอล แบบสดใหม่ทุกคู่ได้ที่ บ้านกีฬา เราพร้อมอัปเดตครบทุกแมตช์ สถิติจริง ฟอร์มจริง วิเคราะห์ก่อนเกมแบบมืออาชีพ ครบทุกมุมมองลูกหนัง
