
จาก : ผลบอลสด พรีเมียร์ลีก 2024 ระหว่าง เชลซี 4-0 เซาแธมป์ตัน วันนี้ 26/2/68 – บ้านกีฬา
ศึก พรีเมียร์ลีก 2024 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์จบลงด้วยความโหดเหี้ยมของ เชลซี ที่โชว์ฟอร์มเหนือชั้นไล่ถล่ม เซาแธมป์ตัน ไปแบบขาดลอย 4-0 เกมนี้ บ้านกีฬา จะพาทุกคนมาสรุป ผลบอลสด อย่างละเอียด พร้อมวิเคราะห์เกมกันแบบถึงพริกถึงขิง
ครึ่งแรก: เชลซีเปิดเกมรุกดุดัน นำขาด 3-0 ตั้งแต่ 45 นาทีแรก
เสียงนกหวีดเริ่มเกมเพียง 24 นาที แฟนบอลเจ้าถิ่นก็ได้เฮสนั่น เมื่อ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู โขกเปิดหัวให้เชลซีนำ 1-0 จากการเปิดของ โตซิน อดาราบิโอโย่ หลังจากนั้น เชลซียิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ และมาได้ประตูที่สองในนาทีที่ 36 จาก เปโดร เนโต้ ซัดผ่านมือ อารอน แรมส์เดล อย่างเด็ดขาด
เกมยังเป็นของเจ้าบ้านอย่างชัดเจน และก่อนหมดครึ่งแรกนาทีที่ 44 ลีวาย โคลวิลล์ ก็สอดขึ้นมาโขกบอลจากฟรีคิกที่เนโต้เปิดให้ ส่งผลให้เชลซีหนีห่าง 3-0 ทิ้งห่างเซาแธมป์ตันแบบไม่เห็นฝุ่น
ครึ่งหลัง: กูกูเรย่าใส่สกอร์ปิดเกม สิงห์บลูส์ปิดบัญชี 4-0
กลับมาครึ่งหลัง เซาแธมป์ตันพยายามปรับแผนสู้ แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้มาก เกมรุกของเชลซีต่อเนื่องและมาได้ลูกปิดกล่องจาก มาร์ก กูกูเรย่า ในนาทีที่ 78 ที่วิ่งเข้ายิงแบบไม่จับจากจังหวะเปิดของ ไทริค จอร์จ ทำให้สกอร์ขาดลอย 4-0
แม้ว่า เชลซี จะผ่อนเกมลงในช่วงท้าย แต่ เซาแธมป์ตัน ก็ยังไม่มีทีเด็ดพอจะทำประตูตีไข่แตกได้ จบเกมไปแบบสุดมัน สิงห์บลูส์ คว้าสามแต้มสำคัญไล่ล่าพื้นที่ยุโรปต่อไป
รายชื่อนักเตะตัวจริงและสำรอง
เชลซี (4-2-3-1)
ผู้รักษาประตู: ฟิลิปป์ ยอร์เกนเซ่น (7.2)
กองหลัง: มาล็อง กุสโต (6.9), โตซิน อดาราบิโอโย่ (7.8), ลีวาย โคลวิลล์ (8.3), มาร์ก กูกูเรย่า (8.6)
กองกลาง: มอยเซส ไกเซโด้ (6.9), เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ (9.0) (C)
ตัวรุก: โคล พาลเมอร์ (7.3), เปโดร เนโต้ (8.1), จาดอน ซานโช่ (7.2)
กองหน้า: คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (8.4)
ตัวสำรอง: โรเบิร์ต ซานเชซ, เวสลีย์ โฟฟาน่า, รีซ เจมส์, อิเช่ ซามูเอล-สมิธ, คีแรน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ (6.7), ไทริค จอร์จ (7.1), จอช อาชีอัมปง (6.6), มาธิส อามูกู (6.5), ชูไมร่า เมฮูก้า (-)
เซาแธมป์ตัน (5-4-1)
ผู้รักษาประตู: อารอน แรมส์เดล (6.9)
กองหลัง: เจมส์ บรี (6.1), อาร์เมล เบลล่า-คอตชัป (6.1), แยน เบดนาเร็ก (OUT), โจ อาริโบ (6.2), ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (6.2)
กองกลาง: ฟลินน์ ดาวน์ส (5.9), วิลล์ สมอลโบน (6.4), คามัลดีน ซูเลมาน่า (6.8), มาเตอุส เฟร์นานเดส (6.4)
กองหน้า: พอล โอนูอาชู (6.4)
ตัวสำรอง: อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่, แจ็ค สตีเฟ่นส์, นาธาน วูด, เวลลิงตัน (IN), คาเมรอน อาร์เชอร์ (IN), ไรอัน แมนนิ่ง (IN), เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส (IN), ไทเลอร์ ดิบลิง (IN)
วิเคราะห์บอลการรุกและการรับ
เชลซีครองบอลได้ 60% และมีจังหวะยิงทั้งหมด 19 ครั้ง โดยเข้ากรอบถึง 10 ครั้ง แสดงให้เห็นถึงการเข้าทำที่เฉียบขาด เกมรุกของพวกเขาหลากหลาย ทั้งการเจาะจากด้านข้างและการเข้าทำจากแนวลึก ส่วนการผ่านบอลมีความแม่นยำสูงถึง 91% ทำให้สามารถคุมเกมไว้ได้ทั้งหมด ด้านเซาแธมป์ตันครองบอลเพียง 40% และมีโอกาสยิงแค่ 7 ครั้ง เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงปัญหาในแนวรุกและการสร้างสรรค์เกมที่ยังมีช่องโหว่มากมาย
สถิติการแข่งขัน
เชลซีแสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าตลอดทั้งเกม โดยครองบอลมากถึง 60% เทียบกับ 40% ของเซาแธมป์ตัน ทีมเจ้าบ้านใช้การต่อบอลที่แม่นยำและไหลลื่น ส่งบอลทั้งหมด 612 ครั้ง ด้วยอัตราความแม่นยำสูงถึง 91% ขณะที่เซาแธมป์ตันส่งบอล 412 ครั้ง และมีความแม่นยำอยู่ที่ 84% อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนมีปัญหาในการสร้างสรรค์เกมรุก โดยยิงเพียง 7 ครั้ง และเข้ากรอบเพียง 2 ครั้ง ต่างจากเชลซีที่มีโอกาสลุ้นประตูถึง 19 ครั้ง และส่งบอลตรงกรอบไป 10 ครั้ง
เกมนี้มีการปะทะกันอย่างดุเดือด โดยทั้งสองทีมทำฟาวล์รวมกัน 15 ครั้ง (เชลซี 6 ครั้ง, เซาแธมป์ตัน 9 ครั้ง) มีการแจกใบเหลืองทั้งหมด 3 ใบ โดยเซาแธมป์ตันได้รับ 2 ใบ และเชลซีได้รับ 1 ใบ ด้านลูกตั้งเตะ เชลซีได้เตะมุมมากกว่าที่ 4 ครั้ง ขณะที่เซาแธมป์ตันได้เพียง 2 ครั้ง ส่วนจังหวะล้ำหน้า เชลซีโดนจับล้ำหน้าไป 2 ครั้ง ขณะที่เซาแธมป์ตันไม่มีจังหวะล้ำหน้าเลย แสดงให้เห็นถึงการเล่นที่รัดกุมของแนวรับทีมเยือน
โดยรวมแล้ว เชลซีเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งเกมรุกและเกมรับ ขณะที่เซาแธมป์ตันพยายามตั้งรับแต่ไม่สามารถต้านทานเกมบุกของเจ้าถิ่นได้ ทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้ไปในท้ายที่สุด
เหตุการณ์สำคัญ
⚽ 24′ 1-0 คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู (แอสซิสต์: โตซิน อดาราบิโอโย่)
⚽ 36′ 2-0 เปโดร เนโต้ (แอสซิสต์: คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู)
⚽ 44′ 3-0 ลีวาย โคลวิลล์ (แอสซิสต์: เปโดร เนโต้)
⚽ 78′ 4-0 มาร์ก กูกูเรย่า (แอสซิสต์: ไทริค จอร์จ)
🟨 45+2′ พอล โอนูอาชู (ใบเหลือง)
🟨 66′ มอยเซส ไกเซโด้ (ใบเหลือง)
Player of the Match – เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ (9.0)
กองกลางอาร์เจนไตน์โชว์ฟอร์มสุดยอดคุมเกมแดนกลางอยู่หมัด จ่ายบอลแม่น 91% ตัดเกมและเชื่อมเกมรุกให้ทีมไหลลื่นตลอด 90 นาที
สถานการณ์ในตารางคะแนน
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ เชลซี มี 46 คะแนน จาก 27 นัด ขยับขึ้นอันดับ 4 ไล่จี้โซนลุ้นพื้นที่ แชมเปียนส์ลีก ด้าน เซาแธมป์ตัน ยังคงจมบ๊วย มีเพียง 9 คะแนน จาก 27 นัด โอกาสรอดตกชั้นเริ่มเลือนลาง
การแข่งขันนัดถัดไป
เชลซีเตรียมกลับมาลงสนามอีกครั้งในเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 28 โดยพวกเขาจะเปิดบ้านพบกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 9 มีนาคม 2025 เวลา 21:00 น. ถือเป็นเกมสำคัญที่สิงห์บลูต้องคว้าสามแต้มเพื่อลุ้นพื้นที่ยุโรป ส่วนทางเซาแธมป์ตัน มีภารกิจหนักเมื่อต้องออกไปเยือน ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ในวันที่ 8 มีนาคม 2025 เวลา 22:00 น. แฟนบอลสามารถติดตาม ตารางบอล และโปรแกรมถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกได้ที่ บ้านกีฬา