
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม เริ่มฉายแววความสำเร็จที่ชัดเจนขึ้นในฤดูกาลนี้ หลังเปิดบ้านถล่ม เอฟเวอร์ตัน แบบขาดลอยถึง 4-0 ในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ผลงานอันโดดเด่นครั้งนี้ถือเป็นการเก็บคลีนชีตครั้งแรกของกุนซือโปรตุกีส และยังตอกย้ำความน่ากลัวของทีมที่กลับมามีลุ้นแชมป์ลีกอย่างเต็มตัว
1. การทดลองกลยุทธ์ใหม่ของอโมริม: ส่งเซิร์กซี่ลงล่าตาข่าย
รูเบน อโมริม กุนซือคนใหม่ของแมนยู ยังคงทดลองปรับเปลี่ยนทีมอย่างต่อเนื่อง โดยในเกมนี้เขาเลือกส่ง โจชัว เซิร์กซี่ ลงสนามเป็นกองหน้าตัวเป้าแทนที่ ราสมุส ฮอยลุนด์ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เคยรับบทบาทนี้ในเกมก่อนหน้า
ไม่เพียงแต่ตำแหน่งกองหน้า อโมริมยังปรับเปลี่ยนผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆ ด้วย โดยมีการสลับตัวจริงถึงหกตำแหน่งจากเกมที่พบ โบโด กลิมท์ ในศึก ยูโรปา ลีก ส่ง อาหมัด ดิยัลโล่ และ ดีโอโก้ ดาโลต์ ลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็ก ขณะที่ ค็อบบี้ เมนู กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรกในรอบสองเดือน
นักเตะที่ถูกพักในเกมนี้ เช่น อันโตนี่, อเลฮานโดร การ์นาโช่, และ มานูเอล อูการ์เต้ ถูกวางไว้เป็นตัวสำรองเพื่อเติมพลังในเกมถัดไป
2. ทอฟฟี่เปลี่ยนหอกหนึ่งตำแหน่ง: ไดช์ส่งเบโต้แทนคัลเวิร์ต-ลูวิน
ทางฝั่ง เอฟเวอร์ตัน กุนซือ ฌอน ไดช์ ปรับทัพเพียงหนึ่งตำแหน่ง โดยส่ง เบโต้ ลงสนามแทน โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ที่ถูกดร็อปไว้ข้างสนาม แม้จะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก แต่แนวรับของเอฟเวอร์ตันก็ไม่อาจต้านทานความดุดันของแนวรุกแมนยูได้
เชมัส โคลแมน กัปตันทีม กลับมาฟิตสมบูรณ์และมีชื่อในม้านั่งสำรอง พร้อมกับผู้รักษาประตูสำรองถึงสองคนที่ถูกส่งชื่อเข้ามาในเกมนี้
3. สามดาวยิงแมนยูโชว์ฟอร์มสุดร้อนแรง
ในยุคของ รูเบน อโมริม แนวรุกของแมนยูทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาคืนฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ทำประตูเพิ่มได้อีกในเกมนี้ รวมถึงการยิง เอฟเวอร์ตัน ที่เขาทำสถิติยิงได้ถึง 3 ประตูจาก 8 เกมหลังในศึกพรีเมียร์ลีก
ขณะที่ โจชัว เซิร์กซี่ ไม่ทำให้ผิดหวัง เขายิงประตูแรกของเกมในนาทีที่ 12 และบวกเพิ่มอีกหนึ่งประตูในครึ่งหลัง ถือเป็นการตอบแทนความไว้วางใจจากกุนซือ และเพิ่มความมั่นใจในฐานะกองหน้าตัวเป้า
อีกคนที่โดดเด่นไม่แพ้กันคือ อาหมัด ดิยัลโล่ ที่ทำสองแอสซิสต์ในเกมนี้ เช่นเดียวกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างเกมรุก
4. แรชฟอร์ดกลับมาผงาด
ในเกมนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด สร้างสถิติใหม่ให้ตัวเองด้วยการขึ้นแท่นเป็นผู้เล่นแมนยูคนที่หกที่ยิงเกิน 50 ประตูในพรีเมียร์ลีกที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยสองประตูที่เขาทำในเกมนี้ช่วยตอกย้ำว่าเขากลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดอีกครั้ง
5. อโมริมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่
ชัยชนะ 4-0 ในเกมนี้ทำให้ รูเบน อโมริม สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้จัดการทีมแมนยูคนแรกที่คุมทีมเกมลีกเหย้า และพาทีมขึ้นนำคู่แข่งได้สองประตูในครึ่งแรกตั้งแต่เริ่มฤดูกาล
ขณะเดียวกัน เอฟเวอร์ตัน ยังคงเป็นทีมที่แพ้ทางแมนยูอย่างชัดเจน โดยจาก 32 เกมที่พวกเขามาเยือนโอลด์ แทรฟฟอร์ด เอฟเวอร์ตันสามารถชนะได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2013
นอกจากนี้ ฌอน ไดช์ ยังมีสถิติที่ไม่น่าจดจำในการเจอกับแมนยู โดยเขายังไม่เคยพาเอฟเวอร์ตันเอาชนะปีศาจแดงได้เลยใน 4 เกมที่ผ่านมา
ติดตามข่าวบอลนอกอัพเดทก่อนใครที่ ข่าวกีฬาฟุตบอลบ้านกีฬา